ความพยายามของ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่จะเว้นระยะห่างเรื่องราวทางการเมือง โดยเฉพาะปัญหาและความวุ่นวายภายในพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองไม่ให้ตกอยู่ในความสุ่มเสี่ยง ตามข้อกฎหมายแล้ว
อีกด้านหนึ่ง ยังต้องไม่ลืมว่า ภายใต้ความวุ่นวาย และความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ ยังมีโอกาสที่จะไปกระทบ กับ ความสัมพันธ์ กับ พี่ใหญ่ อย่าง บิ๊กป้อมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทำให้เกิดช่องโหว่กลายเป็น จุดอ่อนให้ฝ่ายตรงข้ามนำมาใช้โจมตี
แต่ดูเหมือนว่า สถานการณ์ความเป็นจริงแล้ว อาจกลายเป็นเรื่องยาก เมื่อเก้าอี้นายกฯ ของพล.อ.ประยุทธ์ นั้นถูกค้ำยันด้วยฐานการเมือง จากพลังประชารัฐเป็นสำคัญ
ล่าสุดมี ข่าวปล่อย ถูกกระพือขึ้นมาอย่างจงใจว่า แกนนำในพรรคพลังประชารัฐ หลายคน กำลังคิดจะเปลี่ยนขั้ว ย้ายข้าง ทิ้งพรรค ไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย ขั้วการเมืองฝั่งตรงข้าม !
จนทำให้ ทุกคนที่มีชื่อถูกพาดพิง ตกเป็นข่าวลือ ต้องออกมาแก้ข่าวกันพัลวันทั้ง สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม และรองหัวหน้าพรรค เตรียมสละเรือ ย้ายกลับไปอยู่พรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า ไม่เป็นความจริง และ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าว ไม่รู้ว่าต้องการอะไร
เมื่อแกนนำกลุ่มการเมืองทั้งสุชาติ และ อนุชา และสุริยะ จากกลุ่มสามมิตร ตกอยู่ในวังวนของข่าวลือ แน่นอนว่าเรื่องราวต้องลุกลามไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ แต่แล้วนายกฯก็ระบุว่าเป็นเพียงข่าวลือ ไม่มีอะไร
อย่างไรก็ดีการใช้ข่าวลือที่ยังไม่รู้ที่มา ที่ไป ว่ามาจาก คนในพรรค เขย่ากันเองหรือมาจาก คนนอก จากพรรคเพื่อไทยเองที่จงใจสั่นขาเก้าอี้นายกฯประยุทธ์ ก็ตามที แต่เป้าหมายหลักคือความพยายามที่จะดึง พล.อ.ประยุทธ์ ลงมาคลุกวงใน เพื่อ เช็คอาการ !
อย่าลืมว่ากระแสข่าวเรื่องการออกไปตั้งพรรคใหม่ แม้จะยังปรากฏหน้าตาที่ชัดเจน แต่ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้น หากปัญหาความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ ยังคาราคาซัง รวมถึง ยังมีปฏิบัติการกดดัน ปิดล้อม ขั้วอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ กันอย่างไม่จบไม่สิ้น !