ชัยชนะที่ พรรคอนาคตใหม่ เคยได้รับเมื่อครั้งการเลือกตั้ง เมื่อปี 2562 กวาด 81ที่นั่ง ทั้งส.ส.เขตและส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ อาจเป็นเรื่องที่ยากจะเกิดขึ้นได้กับ พรรคก้าวไกล ที่จะฝากความหวังเอาไว้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ! ทั้งด้วยรูปแบบการเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมใช้ บัตรใบเดียว ในปี 2562 ซึ่งเป็นสูตรการคำนวณส.ส.ที่ทำให้พรรคอนาคตใหม่ แจ้งเกิดในสนามการเมืองได้อย่างงดงาม แต่เมื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า จะใช้รูปแบบ บัตร 2ใบ และยังกำหนดให้มี ส.ส.เขต เพิ่มขึ้น จากเดิมมี 350 คน เป็น 400 คน และลดส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลง จากเดิม 150 คนเหลือเพียง 100 คน ย่อมส่งผลกระทบต่อ พรรคก้าวไกล ไม่ใช่น้อย เนื่องจากการเลือกตั้งด้วยรูปแบบบัตร 2 ใบ ได้เปิดทางให้เลือกผู้สมัคร 1ใบ และอีก 1ใบคือการเทใจให้กับ พรรคที่ชอบ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะถูกตั้งข้อสังเกตว่า ด้วยกติกาที่เปลี่ยนไปจาก บัตรเลือกตั้ง 1ใบไปสู่ บัตร 2 ใบนั้น น่าจะมีแต่ พรรคใหญ่ ที่มีทั้งกระแส กระสุน และนโยบายที่ โดนใจ รวมถึง พรรคที่เป็น ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งสามารถ ปั้นผลงาน เพื่อนำมาใช้หาเสียง ในการเลือกตั้ง ได้มากกว่าพรรคที่อยู่ในสถานะ ฝ่ายค้าน นอกจากนี้ ในการเลือกตั้งการเมืองสนามท้องถิ่น หลายต่อหลายนัดที่ผ่านมา ยังสะท้อนว่า กระแสของ คณะก้าวหน้า ที่มี ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เป็นตัวชูโรง แต่กลับไม่สามารถสร้างผลงาน ด้วยการกวาดที่นั่งในระดับท้องถิ่นมาได้ โดยเฉพาะสนามเลือกตั้งอบจ. ซึ่งถูกมองว่าเป็นเหมือนสนามเลือกตั้งระดับน้องๆ รองจากการเลือกตั้งส.ส. แต่ปรากฏว่า กระแสของธนาธร กลับไม่สามารถช่วยอะไรได้ ! ล่าสุดยังน่าสนใจว่า วันนี้พรรคก้าวไกล ต้องทำงานหนักมากขึ้นทั้งงานในสภาฯ ในฐานะ ฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล ควบคู่ไปกับการลงไปลุยในระดับพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆ เพื่อหาเสียง เก็บแต้ม หวังปักธงพรรคในพื้นที่ แชมป์เก่า อยู่นั้น ยังต้องไม่ลืมว่า พรรคก้าวไกลยังมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ คดีความ ที่ต้อง ลุ้นระทึก ว่าอาจจะถูก ยุบพรรค ก่อนถึงวันลงสนามด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีที่มี ผู้ร้อง ให้ดำเนินการกับพรรคก้าวไกล อันมีโทษถึงขั้นยุบพรรค เพราะเข้าไปเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของ ม็อบราษฎร ซึ่งชูเป้าหมายชัดเจนไปที่การปฏิรูปสถาบัน มีพฤติกรรมที่แกนนำม็อบเองเคยถูกศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่า เข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มาแล้ว แต่จนถึงวันนี้ กลับยังไม่มีความชัดเจน ว่า คำร้อง เรื่องใด เรื่องหนึ่ง จะมีความชัดเจนออกมา จนเกิดกระแสที่ต้องลุ้นว่า การวินิจฉัยคดีที่มีพรรคก้าวไกล เป็นผู้ถูกร้อง จะปรากฏในช่วงเลือกตั้ง เพื่อปิดฉากพรรค !