ดูเหมือนว่า แนวรบด้าน สภาผู้แทนราษฎร กลายเป็น จุดเปราะบาง และอ่อนไหวมากที่สุดสำหรับรัฐบาลไปแล้วอย่างสิ้นเชิง แม้ที่ผ่านมา ทั้ง บิ๊กป้อมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะกำชับลูกพรรคหลายครั้งหลายครา ว่าทำให้สภาฯล่ม เพราะ พล.อ.ประวิตร รู้ดีว่า ฝ่ายค้าน พร้อมที่จะใช้เวทีสภาฯ เขย่าขวัญ รัฐบาลได้ทุกเมื่อ ด้วยการเสนอนับองค์ประชุม ในการพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญๆหลายฉบับ ขณะที่ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ทั้งที่เป็น หัวหน้ารัฐบาล แต่กลับกลายเป็นว่าเวลานี้ต้องเรียก วิปรัฐบาล ไปประชุมกันถึงที่ทำเนียบรัฐบาล สถานที่ทำงานของนายกฯ เพื่อให้ทุกอย่างใกล้หูใกล้ตา อีกทั้งยังส่ง นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ ของพรรค ที่ไว้วางใจให้ขึ้นมานั่งเป็น ประธานวิปรัฐบาล รายงานสายตรงเรื่องในสภาฯ ไปถึงนายกฯ ได้ทันที แต่ยังพบว่า จนแล้วจนรอด จนถึงวันนี้ปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ จากฝั่งส.ส.รัฐบาล ยังเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก ! ในที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับกับรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาล ว่าขอให้รัฐมนตรีไปเข้าร่วมประชุมสภาฯ ในทุกวาระการพิจารณาร่างกฎหมาย เนื่องจากฝ่ายค้านจ้องจะนับองค์ประชุมอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้เตรียมความพร้อมในการลงมติอย่างพร้อมเพรียง แน่นอนว่าการอยู่ในสถานะ ฝ่ายบริหาร ย่อมเป็นจุดที่สร้างความได้เปรียบที่จะให้พรรคร่วมรัฐบาล ทุกพรรคได้สร้างผลงานเพื่อแปรเปลี่ยนไปสู่การหาเสียง เมื่อการเลือกตั้งมาถึง นอกจากนี้จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ เอาตัวรอดจากการซักฟอกในสภาฯ มาได้ทุกครั้ง ผ่านคะแนนโหวต ไว้วางใจมาได้อย่างฉลุย แต่สถานการณ์กลับกลายเป็นว่า การควบคุมเกมในสภาฯ ของฝ่ายรัฐบาล เพื่อให้องค์ประชุมครบ ไม่เกิดปัญหาสภาฯล่ม กลับยากเต็มที และยังต้องไม่ลืมว่า ลึกๆแล้ว ปัญหาความขัดแย้งที่ยังคุกรุ่นอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ ระหว่างขั้วพล.อ.ประยุทธ์ กับร.อ.ธรรมนัส แม้จะยังไม่ปะทุขึ้นมารอบใหม่ แต่ไม่ได้หมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเชื่อได้อย่างสนิทใจว่า จะไม่ถูกเอาคืน หรือเจอเกม หักหลังกลางสภาฯ ย้อนกลับมาในวันข้างหน้า ใครจะกล้ารับประกัน !