เพื่อไทย รู้ดีว่า การเป็น จ่าฝูง ในฐานะ แกนนำฝ่ายค้าน นั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการบริหารทั้งความสุ่มเสี่ยงบนเกมการเมือง ไปพร้อมๆกับการรักษา ความสัมพันธ์ กับ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ด้วยกันเอาไว้ในเวลาเดียวกันย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายดาย
การประชุมร่วมรัฐสภาในวาระการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่เสนอโดย พริษฐ์ วัชรสินธุ แกนนำกลุ่ม Re-Solution และได้กุนซือจาก คณะก้าวหน้า อย่าง ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ซึ่งเป็นเนื้อเดียวกันกับ พรรคก้าวไกล ชงเสนอแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ประกาศจุดมุ่งหมายอยู่ที่การรื้อ ระบอบประยุทธ์ จนทำให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ร้อนระอุตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. ก่อนที่จะมาลงมติในวาระแรกวันที่ 17 พ.ย.64 ที่ผ่านมานั้น
หากมองภาพแห่งความขัดแย้ง ย่อมชัดเจนว่า กลางสภาฯนั้นคือเวทีที่ต่อสู้กันระหว่าง แนวร่วมม็อบราษฎร ที่ผนึกกำลังกับ พรรคก้าวไกล ต่อกรกับ พรรคพลังประชารัฐ และ 250 ส.ว. อย่างดุเดือด เพราะส.ว. ไม่มีทางยอมให้เกิดรูปแบบที่เรียกว่า สภาฯเดี่ยว หากร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ฝ่าด่านวาระแรกเข้าไปได้
แต่ทว่าในภาพที่ลึกลงไป มากกว่าฉากหน้าที่เกิดความขัดแย้ง เปิดวิวาทะกันระหว่าง ปิยบุตรกับส.ว. บางรายนั้น กลับเป็นท่าทีและความเป็นไปของ พรรคเพื่อไทย ในท่ามกลางศึกครั้งนี้ต่างหาก !
ความพ่ายแพ้ของปิยบุตร และ พริษฐ์ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อมติจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาไม่ให้ความเห็นชอบ ไม่รับร่างแก้ไขฯ ด้วยเสียง 473 ต่อ 206 เสียง ย่อมไม่ใช่เรื่องที่เกินไปจากความคาดหมาย ที่เกิดขึ้น มาก่อนตั้งแต่ที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ยังไม่เข้าสู่การพิจารณา ในที่ประชุมด้วยซ้ำ
การที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ถูกตีตกไป อาจส่งแรงสั่นสะเทือนต่อพรรคก้าวไกล และม็อบราษฎร บนท้องถนน มากกว่าใครเพื่อน แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยแล้ว ต้องถือว่าไม่มีอะไรเสียหาย !
ในทางตรงกันข้าม หากร่างรัฐธรรมนูญฯฉบับนี้ผ่านวาระแรกไปได้แล้ว ย่อมไปขัดต่อรัฐธรรมนูญ ฉบับที่อยู่ในระหว่างทูลเกล้าฯ ซึ่งเคาะรูปแบบการเลือกตั้งเอาไว้แล้วว่าจะใช้ บัตร2ใบ แต่เมื่อในฐานะพรรคใหญ่จำเป็นที่จะต้องรักษา ความสัมพันธ์ ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านเอาไว้ ให้มากที่สุด
และที่สำคัญยังเป็นการรักษา แนวร่วม กลุ่มการเมืองภาคประชาชน กลุ่มเยาวชนในนาม ม็อบราษฎร ที่เคลื่อนไหวอยู่นอกสภาฯ เพราะต้องไม่ลืมว่าก่อนหน้านี้ ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ที่แม้จะอยู่ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่ในการช่วงชิงฐานเสียงทางการเมือง ล้วนมีเป้าหมายไปที่ กลุ่มยังโหวตเตอร์ กลุ่มคนรุ่นใหม่ ไม่แตกต่างกัน !