การเข้ามานั่งในเก้าอี้ "ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ" ของ "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" ยังไม่ทันพ้นสัปดาห์ ก็กลายเป็นว่า เกิดแรงต้าน จาก "กลุ่มการเมือง" ภายในพรรค ที่เปิดหน้าพุ่งเป้าไปที่พีระพันธุ์ อย่างจงใจ ! การออกมาฟาดงวงฟาดงา ของ "สิระ เจนจาคะ" ส.ส.กทม. ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมทั้งที่เข้ามาทำงานในพรรค ไปจนถึงการมีข่าวว่าจะถูกเสนอชื่อ ในฐานะ "แคนดิเดตนายกฯ" ของพรรคพลังประชารัฐ ล้วนแล้วแต่เป็นความเคลื่อนไหวที่ถูกซ้อนเอาไว้ด้วย เกมอีกชั้นหนึ่ง ใช่ว่าสิระ จะไม่รู้ว่า การมาของพีระพันธุ์ ย่อมได้รับความเห็นชอบ จาก "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพราะต้องไม่ลืมว่า พีระพันธุ์ คือที่ปรึกษานายกฯ และได้ไฟเขียวจาก "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเมื่อสิระ จะรู้ดีว่าพีระพันธุ์ ย่อมมีความเชื่อมั่นใน "สถานะ" ทางการเมืองของตนเอง จากทั้งพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร อยู่แล้ว การตัดสินใจเข้ามานั่งในเก้าอี้ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐจึงเกิดขึ้น เป็นขั้นเป็นตอนอย่างที่เห็น แต่หากจะให้สิระ อยู่นิ่งเฉยโดยไม่แสดงปฏิกิริยาอย่างใด อย่างหนึ่ง เพื่อสะท้อนให้เห็นถึง "แรงกระเพื่อม" จากกลุ่มการเมืองขั้วของ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค เลยก็อาจจะเป็นเรื่องที่ผิดปกติจนเกินไป ! เพราะนั่นอาจเป็นการแสดงให้เห็นว่า กลุ่มของร.อ.ธรรมนัส ยอมที่จะถูก "รุกไล่" จาก "สายตรง" ของพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งที่วันนี้ร.อ.ธรรมนัส ยังคงมีตำแหน่ง "แม่บ้านพรรค" อย่างไรก็ดี แรงต้าน แรงกระเพื่อมที่ "รับน้องใหม่" อย่างพีระพันธุ์ นั้นดูจะเป็นเรื่องที่ถูกคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วว่า "จะต้องเกิดขึ้นแน่" เพียงแต่จะมากหรือน้อยก็เท่านั้น ! ล่าสุดร้อนไปถึง บิ๊กป้อม ต้องส่งสัญญาณ ให้ "สงบศึก" โดยตอบคำถามผ่านสื่อ ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ว่า "ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีหรอก คงเป็นเรื่องตัวบุคคล" ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐแล้ว ดูจะมีความจำเป็นที่พล.อ.ประวิตร จะต้องควบคุมสถานการณ์ให้เกิดแรงกระเพื่อมน้อยที่สุด ยิ่งเมื่อการต่อสู้ วัดกำลังภายในพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินเข้าใกล้บทสรุปแล้วว่า ถึงอย่างไรพล.อ.ประยุทธ์ จะยึดพรรคทางทั้งตรงและทางอ้อม ให้เบ็ดเสร็จ ในเร็ววันนี้ !