การออกมายืนยันจาก บิ๊กตู่Ž พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่ายังไม่มีการปรับครม. ซ้ำไปซ้ำมา สำทับด้วยท่าทีที่ชัดเจนจาก บิ๊กป้อมŽ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่ย่อมไม่ได้หมายความว่า แรงกระเพื่อมภายในพรรคพลังประชารัฐ จะสงบลงได้อย่างราบคาบ ! เมื่อเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยฯ ยังว่างอยู่ 2 ที่นั่ง เมื่อยังมี กลุ่มการเมืองในพรรคที่รวมตัวกัน เคยส่งสัญญาณ "ทวงถาม" กันมาแล้ว อย่าง "ส.ส.กลุ่มใต้" ที่มีสมาชิกเกาะกลุ่มกันอยู่กว่า 10 เก้าอี้ ยังไม่สมหวัง เมื่อความไม่ชัดเจนว่า "ปลัดฉิ่ง" ฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เมื่อพ้นจากเก้าอี้ข้าราชการประจำมาแล้ว ยังมีชื่อจ่อคิวว่า จะได้เข้ามานั่ง รมช.มหาดไทย มาช่วยงาน "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็ยังไม่มีความคืบหน้า อย่างไรก็ตามการปรับ ครม. รอบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน หลังจากที่เดินหน้าแก้ปัญหาไปทีละเปลาะ ! โดยเฉพาะปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่ยึดเก้าอี้รมช.2ตำแหน่งคืนจาก ลูกน้องคนสนิทŽ ของ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร ทั้ง "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" กับ "นฤมล ภิญโญสินวัฒน์" ที่หลายคนเคยประเมินเอาไว้ว่า จะถึงขั้นทำให้ พรรคแตก ! แต่จนถึงวันนี้ นอกจากพรรคพลังประชารัฐ จะยังไม่แตก กลับกลายเป็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังส่ง "สายตรง" อย่าง "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" ที่ปรึกษานายกฯ เข้าไปนั่งเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ช่วยบิ๊กป้อมทำงานในพรรคพลังประชารัฐอีกด้วย การแก้วิกฤตความขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐแม้หลายฝ่ายจะมองว่า ร.อ.ธรรมนัส ยังมีฤทธิ์เดช ที่พร้อมจะตอบโต้ พล.อ.ประยุทธ์ อีกก็ตาม ทว่ามีรายงานข่าวเบื้องลึกว่า อีกไม่นาน ปัญหาความวุ่นวาย ที่เชื่อมโยงกับ ร.อ.ธรรมนัส จะต้องเดินไปถึงฉากจบ ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ ก็รอเพียงจังหวะที่เหมาะสม สถานการณ์มีความสุกงอมมากพอ ที่จะบริหารจัดการเรื่องราวในพรรค เช่นเดียวกันกับที่จะอาศัยจังหวะที่ "คะแนนนิยม" ของรัฐบาล เริ่มดีดขึ้นเป็นกร๊าฟขาขึ้นจากปัญหาไวรัสโควิด-19 เมื่อถึงเวลานั้นการตัดสินใจปรับ ครม.บนความได้เปรียบของตัว พล.อ.ประยุทธ์ ที่ถือแต้มต่อในมือ จะเกิดขึ้น และขณะเดียวกัน ยังจะต้องเป็นการปรับครม.เพื่อได้ ผลลัพธ์ในทางที่เป็น บวกŽ มากกว่า ลบŽ เปิดทางให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้เลือกเฟ้น "มือทำงาน" เข้ามาช่วยโกยแต้มก่อนเลือกตั้ง อีกด้วย!