การออกมาปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ว่าจะมีการยุบสภาฯ แล้วเตรียมเลือกตั้งใหม่ที่ออกมาจากปากของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หลายต่อหลายครั้ง กลับไม่สามารถ "ดับข่าวลือ" ที่โหมเข้าใส่รัฐบาล ให้ยุติลงได้ยาก ! จะด้วยเป็นเพราะความหวาดระแวงของนักการเมืองด้วยกันเอง หรือจะเป็นการเพราะกระแสการปรับครม. นั้นผุดขึ้นมาจาก "พรรคพลังประชารัฐ" พรรคแกนนำรัฐบาล หาใช่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล พรรคอื่น แต่อย่างใด หรือเป็นเพราะนี่คือ "แผนปฏิบัติการ" ที่นำมาใช้เพื่อหวัง "กดดัน" ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ หวังใช้จังหวะที่ผู้นำรัฐบาลกำลังเจอกับศึกในและศึกนอก ปรับเปลี่ยนเก้าอี้ใน ครม. แต่ในขณะเดียวกัน กลับพบว่า นอกเหนือไปจากกระแสความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งระหว่างขั้วตรงข้าม ที่รวมพลังเขย่าพล.อ.ประยุทธ์ แล้วล่าสุดยังมีความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตามองเมื่อ พรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ต่างพาเหรด พากัน เสนอชื่อ "แคนดิเดตนายกฯ" กันอย่างคึกคัก ประหนึ่งว่า ไม่มีใครไว้ไมตรี ว่าวันนี้ เรายังมีนายกฯคนปัจจุบันนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อพรรคภูมิใจไทยเสนอ "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ว่าเป็นผู้มีความเหมาะสม ขณะพรรคประชาธิปัตย์ เสนอ "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์" รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค พรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน เสนอชื่อ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรค ส่วนพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้าน ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นพรรคการเมืองที่ถูกมองว่า "ได้เปรียบ" เหนือทุกพรรค ในการเลือกตั้งรอบหน้าด้วยใช้กติกาใหม่ นั่นคือ "บัตร 2ใบ" กลับยังไม่มีความชัดเจนว่า "ใคร" จะได้รับไฟเขียวจาก "เจ้าของพรรค" อย่าง "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ให้มีชื่อเป็นแคนดิเดต ถือธงนำชิงเก้าอี้นายกฯ แต่อย่างใด ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ แม้จะอยู่ในช่วงมรสุม พัดเข้าใส่พรรค จนเกิดรอยร้าว ร่ำๆว่าพรรคจะแตกแต่ล่าสุด มีการยืนยันจาก "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค ต้องออกมายืนยันว่าพลังประชารัฐ นอกจากจะไม่แตกแล้วยังชัดเจนว่าพรรคจะเสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอย่างแน่นอน การเปิดหน้า เสนอชื่อ ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ในห้วงเวลานี้ ด้านหนึ่งอาจถือเป็นเกมการเมืองที่กดดัน พรรคเพื่อไทยไม่น้อย ว่าสุดแล้ว "ใคร" จะเป็นคนถือธงนำ ในท่ามกลางกระแสข่าว "เปลี่ยนหัว" เปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค แต่ในขณะเดียวกัน สำหรับพรรคพลังประชารัฐแล้วนี่อาจเป็นเกมที่บีบให้พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเล่นต่อเพราะไม่เช่นนั้นพรรคพลังประชารัฐ อาจจะตกที่นั่งลำบาก ดีไม่ดี ยังต้องมาตามลุ้นว่ารอบหน้าจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ อีกด้วย !