เสรี พงศ์พิศ www.phongphit.com ปี 2560 กำลังจะผ่านไปพร้อมกับเหตุการณ์สำคัญทั่วโลก ความขัดแย้ง ความรุนแรงที่ดูจะทวีขึ้นส่วนในประเทศ เกิดน้ำท่วมร้ายแรงอีกครั้งหนึ่ง พระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ และการวิ่งจากเบตงถึงแม่สายของตูน บอดี้สแลม เหตุการณ์ที่คู่ขนานกันไปตลอดปี คือ เรื่องการเมือง โรดแมปกลับไปสู่ “ประชาธิปไตย” และความพยายามในการปฏิรูป กับเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องที่รุนแรงและดูเหมือนจะกระทบคนจนคนรากหญ้ามากที่สุด หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น หนี้นอกระบบที่กลับมา หมดปัญญาหาทางออกของคนจน ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ ในความสุขมีความทุกข์ ในความทุกข์มีความสุข แต่เป็นสองอย่างในเรื่องเดียวกัน เป็นคนละขั้วของความเป็นจริงเดียว บวกและลบ ที่ประจบกันทำให้เกิดกระแสไฟแห่งชีวิต พระราชพิธีพระบรมศพฯ และการวิ่งของตูน บอดี้สแลม เป็นสองเหตุการณ์ที่บ่งบอกว่า “ทุนทางสังคม” หรือสายใยที่ร้อยรัดผู้คนให้ผูกพันเป็นหนึ่งเดียวไม่ได้ขาดหาย ยังอยู่และพร้อมที่จะปรากฎออกมาเมื่อถึงเวลา หรือในสภาพการณ์เหมาะสม สิ่งที่ปรากฎไม่ใช่ “มวลชนบอด” แต่เป็น “พลังทางจิตวิญญาณ” ที่ผสานและแผ่ซ่านไปทั่ว เหมือนปฏิกิริยาลูกโซ่นิวเคลียร์ ความสัมพันธ์อันดีนี้ต่างหากที่ทำให้คนมีความสุข มีผู้เชื่อมสะพาน ประสานพลัง มีสถาบันพระมหากษตัริย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ มีตูน บอดี้สแลมที่เป็นผู้ “สร้างสะพาน” และเป็นผู้เร่งปฏิกิริยา (catalyst) #คิดถึงงานวิจัยที่ยาวนานที่สุดของฮาร์วาร์ด ตั้งแต่ 2481 ถึง 2556 เป็นเวลา 75 ปี วิจัยกลุ่มเป้าหมาย กว่า 700 คน ถ้ารวมคนในครอบครัวและใกล้ชิดที่ให้ข้อมูลด้วยก็มากกว่า 2,000 คน งานวิจัยนี้ต้องการหาคำตอบว่า อะไรทำให้คนมีชีวิตดีและมีความสุข ถามคนทั่วไปไม่ว่ายุคไหนได้คำตอบเหมือนกัน ร้อยละ 80 บอกว่า เงิน ร้อยละ 50 บอกว่า ชื่อเสียง แต่งานวิจัยของฮาร์วาร์ดบอกว่า ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง แต่เป็น “ความสัมพันธ์ที่ดี” ต่างหาก เพราะไม่ว่ารวยหรือจน มีชื่อเสียงหรือไม่มี ก็มีความสุขได้ถ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว ญาติพี่น้อง ที่ทำงาน ในชุมชน กับผู้คนทั่วไป เหตุการณ์ใหญ่ทำให้คนไทยแม้มีทุกข์ก็ได้รับการปลอบใจในความสัมพันธ์อันดีของพี่น้องคนไทยทั้งชาติที่รวมใจกันเป็นหนึ่ง มีความสุขที่เห็นตูนวิ่งเพื่อส่วนรวม เห็นผู้คนนับล้านออกไปยืนรอนั่งรอให้กำลังใจและบริจาคริมถนนกว่าสองพันกิโลเมตร ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก อากาศจะหนาวเย็นเพียงใด ##คิดถึงลีรอย ลิตเติล แบร์ ปราชญ์ชาวแบล็คฟุต ชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกัน ผู้เขียนอารัมภกถาในหนังสือ ว่าด้วยการสร้างสรรค์ (On Creativity) ของเดวิด โบห์ม นักฟิสิกส์คนสำคัญ ตอนหนึ่งว่า “ทุกสิ่งล้วนเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน ถ้าทุกสิ่งเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน ทุกสรรพสิ่งก็สัมพันธ์กันด้วย ถ้ามนุษย์มีชีวิตและจิตวิญญาณ ดังนั้น “ทุกความสัมพันธ์ของฉัน” ก็จะต้องมีชีวิตและจิตวิญญาณด้วยเช่นกัน” ไม่เพียงแต่ระหว่างคนกับคน แต่คนกับสรรพสิ่ง ด้วยเหตุนี้ คนไทยเราจึงเชื่อในแม่ธรณี แม่คงคา แม่โพสพ นางไม้ ผีไร่ ผีนา ผีป่า ผีเขา ผีเหย้า ผีเรือน ผีปู่ตา แม่ย่านาง สรรพสิ่งมี “จิตวิญญาณ” เพราะเราสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆ ด้วยจิตวิญญาณ ในความเป็นจริงที่ดูเหมือนไร้ระเบียบ มีระเบียบ มีกฎเกณฑ์ กฎหมาย ผิดผี คือ ผิดกฎ ผิดระเบียบที่เชื่อมทุกอย่างให้เป็นหนึ่ง ผิดผีจึงต้องเสียผี ผิดระเบียบต้องแก้ไข ขอขมา สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ รูปเคารพ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ไม่ได้เป็นเพียง “สัญลักษณ์” หรือเพียง “ตัวแทน” แต่เป็น “ความเป็นจริง” นั้น เป็นความเป็นจริงอีกมิติหนึ่ง ที่เป็นอุตระภาวะ (transcendental) เหมือนบุคคลที่กลายเป็น “ตำนาน” ที่ถูกยกให้ไปอยู่ในอีกมิติหนึ่ง เรื่องราวของเขาเป็นตำนานที่เล่าขานกันถึงลูกหลาน ที่สืบทอดกันไปหลายชั่วอายุคนจนเกิดมีรายละเอียดที่ฟังดูพิสดาร แต่ “ตำนาน” สำคัญกว่า “ความจริง” เพราะชีวิตต้องการอะไรมากกว่าเหตุผลทางวิทยาศาสตร์หรือวิชาการ สำหรับ “ตำนาน” ความเชื่อกับความรู้ไม่ได้แยกจากกัน สิ่งเหนือธรรมชาติกับธรรมชาติมีเส้นแบ่งที่เลือนรางจนแทบมองไม่เห็น และผู้คนทั่วไปไม่ให้ความสำคัญ ถ้าสิ่งนั้นให้ความหมายแก่ชีวิต ปี 2560 เป็นปีแห่ง “ตำนาน” โดยแท้ เหตุการณ์พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่รัชกาลที่ ๙ ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลก ที่ชื่นชมในความยิ่งใหญ่ของพระราชพิธี ที่สะท้อนศรัทธาของประชาชนและพระบารมีอันมากล้นของพระองค์ ปรากฎการณ์ตูน บอดี้สแลม ได้กลายเป็นตำนาน ไม่ใช่แต่การวิ่ง 2,000 กว่ากิโลเมตร แต่ “คุณภาพ” ของการวิ่ง “พลังทางจิตวิญญาณ” ที่สัมผัสได้ของ “ขบวนการพลเมืองสร้างสุข” ที่ทำให้เงินพันล้าน ยิ่งใหญ่กว่างบประมาณล้านล้านของรัฐบาล เพราะเงินพันล้านนั้นมาจากน้ำใจของคนไทยทั้งชาติ ที่ร่วมกันให้อย่างอิสระเสรีและมีความสุข สามคำ ปลง อโหสิ แผ่ ถ้าสรรพสิ่งล้วนสัมพันธ์กัน อโหสิกรรมและการแผ่เมตตาย่อมมีผลต่อสรรพสิ่ง ทำให้เย็นลงทั้งตัวเองและผู้ที่เราอโหสิให้ แผ่เมตตาให้ รวมทั้งบ้านเมือง ทั้งโลกเองก็จะเย็นลง ปลง ให้ได้ไม่ว่าอะไรได้เกิดขึ้น กำลังเกิด หรือจะเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นไปตาม “กรรม” อโหสิและแผ่เมตตา ข้าฯจะเป็นสุข เขาจะเป็นสุข เราจะเป็นสุข สามคำขอ ต่อพระผู้เป็นเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอขอบพระคุณสำหรับชีวิตและทุกสิ่งในปีที่ผ่านมา ขออโหสิกรรมสำหรับความผิด ข้อบกพร่องทั้งปวง และขอโปรดอวยพร นำพาไปถึงจุดหมายเทอญ