รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
เดือนตุลาคม 2564 นี้ ไทยมีแผนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กลุ่มเยาวชนอายุ 12-17 ปี โดยความยินยอมของพ่อแม่ผู้ปกครอง แม้ว่าจะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนระหว่างฝั่งที่ค้านกับฝั่งที่สนับสนุน ‘อย.’ (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) ยังไม่อยากให้ฉีดวัคซีนโควิดให้เด็กเพราะต้องการข้อมูลเพิ่มเพื่อความมั่นใจก่อน VS. ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สนับสนุนเดินหน้าให้ฉีด
ประเทศที่เห็นชอบให้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อิสราเอล สหรัฐอเมริกา จีน แคนนาดา ฟิลิปปินส์ เป็นต้น
ประเทศที่เริ่มฉีดวัคซีนโควิดให้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปแล้ว เช่น ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ อิตาลี จีน ฮ่องกง เป็นต้น
ทำไม? ต้องฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับเยาวชนอายุระหว่าง 12-17 ปี … ก็เพื่อป้องกันเด็กไม่ให้ติดโควิด ไม่เป็นพาหะนำเชื้อไปแพร่ต่อให้กับผู้ใหญ่ในครอบครัวหรือผู้ที่ใกล้ชิดสัมผัสกับตัวเด็ก และที่สำคัญคือการให้เด็กดำเนินชีวิตแบบนิวนอร์มอล เดินทางปลอดภัย และที่สำคัญกว่าก็คือ คืนเด็กกลับเข้าสู่ห้องเรียน เรียนหนังสือที่โรงเรียนแบบ “On-site” ตามนโยบายของสพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป…
การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับเด็ก ๆ ยังคงเป็นข้อถกเถียงกันมาก แม้ว่ารัฐบาลของหลาย ๆ ประเทศจะเห็นชอบว่า ควรฉีดวัคซีนด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด mRNA ที่คิดค้นโดยบริษัทยาที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลกอย่าง Pfizer และ Moderna
ข้อมูลที่ควร “ตระหนัก” แต่ไม่ควร “ตระหนก”
- ผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน mRNA ให้กับเด็ก ๆ คือ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Pericarditis) เกิดกับเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง และจะเกิดขึ้นในการฉีดเข็มที่ 2
- การกลายพันธุ์ของไวรัสที่เก่งขึ้น แพร่เก่งขึ้น หลบหลีกภูมิคุ้มกันเก่งขึ้น เช่น “สายพันธุ์เดลตา” ทำให้เด็กติดโควิดมากขึ้น และมีอัตราการเสียชีวิตมากขึ้น
- เด็กอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป จนถึง 18 ปี ที่เคยมีชุดความรู้เดิมว่า “เด็กติดยากและตายยาก” ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพที่รุนแรงมากเท่ากับผู้ใหญ่ แต่ปัจจุบันพบว่า เด็กติดง่ายกว่าผู้ใหญ่ เข้าโรงพยาบาลมากขึ้น และมีอาการหนักกว่าและรักษายากกว่าผู้ใหญ่
- เด็กที่ติดโควิด แม้จะมีอาการไม่มาก รักษาหายแล้ว สามารถเกิดความแปรปรวนทางด้านร่างกาย สมอง และจิตใจ เพราะ SARS-CoV-2 ไปจุดปะทุการอักเสบในร่างกายมากกว่าไวรัสทุกตัวที่เคยพบมาก่อน (Long Covid in Children)
- ถ้าเด็กไทยไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดและเด็กติดโควิดแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปสำหรับประเทศไทยคือ พัฒนาการทางสมองของเด็กไทยเสียหาย ทำให้สุขภาพคนไทยอ่อนแอ ขาดแคลนกำลัง “คนไทยที่แข็งแรง” ที่จะช่วยพัฒนาประเทศในอนาคต
(ฟังเพิ่มเติมที่: https://www.youtube.com/watch?v=P6Kyi91ZzEk – ไทยเปิดประเทศได้หรือยัง: Suthichai live 22/09/2564)
1 ใน “ทางเลือก” ของพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กอายุ 12-17 ปี (เกิดช่วงปี 2547-2552)
- การฉีดวัคซีนเชื้อตาย “สองเข็ม” และหลังจากนั้นฉีดวัคซีนกระตุ้นต่อด้วยวัคซีน mRNA ดังเช่น ประเทศจีนเริ่มฉีดวัคซีนเชื้อตายให้กับเด็กตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา และจะฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ด้วย mRNA ที่คิดค้นเอง
‘โควิด-19’ ที่ดูมืดมน...แต่ไม่อับแสง...
แพทย์ประเมินว่า ‘โควิด-19’ จะไม่สงบลงง่าย ๆ ถ้าไม่สามารถควบคุมการระบาดในหมู่ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และถ้ายังไม่มี ‘วัคซีนเซียน’ ที่จะมาปราบศัตรูที่มองไม่เห็นตัวอย่าง ‘โควิดกลายพันธุ์’ ... นี่คือ ‘โจทย์หิน’ ของโลกที่ต้องเผชิญอย่างน้อยอีก 1 ปี นับจากวันนี้
เมื่อชีวิตต้องเดินต่อไป... “วัคซีนใจ” จะสร้างเสริมสติ ความอดทน และความระมัดระวัง เพื่อเป็น ภูมิต้านทานโรคและโลก ... และปกป้องเด็ก ๆ ที่จะมาสานต่ออนาคตโลก และสร้างโลกในอนาคต
จึงเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องฝากท่านผู้อ่าน “ช่วยคิด/ช่วยวิเคราะห์” ถึงความจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนให้กับเด็ก โดยมองให้รอบด้าน หลายมิติ ก่อนสรุปนะครับ