ชวาลย์ คงอุดม เรียน ท่านบรรณาธิการ นสพ.สยามรัฐ คอลัมน์ คุณชัช เตาปูนที่นับถือปัจจุบันอาชญากรรมในบ้านเราเกิดขึ้นบ่อยๆ ครั้ง นอกเหนือจากขโมยจี้ปล้นลักทรัพย์กันเป็นเรื่องปกติของสังคมไทยทุกวันนี้ ซึ่งเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ค่าครองชีพสูง เรื่องอาชญากรรมทำนองนี้ย่อมจะหนีไม่พ้น เลยเป็นเรื่องชินชาสำหรับคนไทยเราไปเสียแล้ว แต่อาชญากรรมจากคนไทยด้วยกันยังไม่เท่าไหร่ แต่เดี๋ยวนี้ภัยคุกคามจากต่างชาติทั้งมาในรูปแบบการก่อการร้าย หรือเชิงอาชญากรรมเศรษฐกิจเกิดขึ้นไม่น้อยทีเดียว ยิ่งเราเปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาอย่างเสรีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านกฎหมายการลงทุน หรือเปิดช่องทางอิสระในเรื่องของผ่อนคลายวีซ่าของการท่องเที่ยว รวมไปถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี แรงงานต่างด้าวทั้งเวียดนาม แรงงานเขมร หรือพม่าเข้ามาหมด คนไทย ไม่มีสิทธิรู้ได้เลยถึงอุปนิสัยใจคอ หรือพฤติกรรมว่า เป็นคนจิตใจอย่างไร โหดร้ายป่าเถื่อนหรือไม่ รวมไปถึงการเคยมีประวัติก่ออาชญากรรมจากประเทศบ้านเกิดของตัวเองมาก่อนหรือไม่ แน่นอนสิ่งที่หลุดรอดตามมาอย่างหลีกหนีไม่พ้นก็คือ ความไม่ปลอดภัยจากความเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมข้ามชาติ หรือภัยคุกคามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ หรือแม้แต่ฝรั่งตาน้ำข้าวจากยุโรปที่ก่ออาชญากรรมข้ามชาติทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างเช่นกรณีเหตุเกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้มีการแฮ็กข้อมูลตู้เอทีเอ็มของธนาคารของรัฐ ซึ่งเป็นเรื่องน่ากลัวทีเดียวทั้งที่ประเทศไทยเราควรจะมีมาตรการดูแลป้องกันให้เกิดความรัดกุมมากขึ้นกว่าปัจจุบัน ทุกวันนี้ประเทศไทยเรายังไม่สามารถจะเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านได้ถึงขั้นจะทราบได้ว่า คนต่างด้าวหรือประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามานั้น มีประวัติเคยก่อคดีหรือต้องโทษมาก่อนหรือไม่ เหมือนทำนองเดียวกับที่ประเทศไทยเรามีประวัติการก่ออาชญากรรมของคนไทยที่เคยต้องคดีจำคุกหรือรับโทษคดีโน้นคดีนี้ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจะสืบทราบและนำไปสู่กระบวนการติดตามจับกุมคนร้ายเวลาก่อเหตุในคดีต่างๆได้ ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว หากประเทศไทยเราไม่มีประวัติหรือข้อมูลคนของประเทศเพื่อนบ้านที่เข้ามาตั้งรกรากในไทยทำมาหากินอย่างดีพอ ชีวิตและทรัพย์สินคนไทยย่อมมีความเสี่ยงไม่น้อย โดยเฉพาะปัญหาการลักพาตัว หรือเด็กหายในปัจจุบันนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก มีให้เห็นตามโซเชียลมีเดียเป็นรายวัน ประกาศเด็กหายจังหวัดต่างๆ ก็ไม่มีใครรู้ว่า คนร้ายเป็นประเทศเพื่อนบ้านเราก่อเหตุหรือล่อลวงเด็กไทยเรากันหรือไม่ และมีมากน้อยขนาดไหนเป็นเรื่องน่ากังวลไม่น้อยทีเดียว ปัญหานี้น่าจะมีการสืบค้นต้นตอปัญหาของเด็กไทยว่ามาจากฝีมือคนไทยหรือแก๊งคนร้ายข้ามชาติกันแน่ และประเทศไทยเราจะหาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร ไม่ใช่ทุกวันนี้เราอาศัยทางออกด้วยการแก้ไขปัญหาเด็กหายผ่านทางการประกาศหาคนหายทางโซเชียลมีเดียบ้าง หรือผ่านแอพพลิเคชั่นที่มีฐานข้อมูลคนหายจากมูลนิธิกระจกเงา เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ช่วยค้นหาและติดตามคนหายแบบออนไลน์เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็วเท่านั้น ซึ่งคงจะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ปัจจุบันขนาดมีกล้องวงจรปิดตามจุดสถานที่ต่างๆ มากมาย เด็กไทยยังสูญหายหรือ ถูกลักพาตัว ก็เป็นเรื่องน่าห่วงและน่ากังวัลใจทีเดียว สำหรับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทย เพราะฉะนั้นถึงเวลาหรือยัง สำหรับประเทศไทยเราควรจะมีการจัดระเบียบคนต่างชาติที่เข้ามาพำนักในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดและถาวรเสียที ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งหรือคนชาติเขมร ลาว เวียดนาม มาเลย์หรือประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เข้ามาพำนักในไทย อยู่จุดไหน หรือมีการย้ายที่พักพิง เจ้าของห้องเช่าหรือเจ้าของบ้านพักที่ให้อยู่อาศัยหรือที่พักพิงไม่ว่าจะเป็นการส่วนตัวหรือเช่าเป็นเชิงพาณิชย์ ก็ควรจะมีการแจ้งหรือขึ้นทะเบียนเป็นกิจจะลักษณะเพื่อให้ทางการรับทราบ โดยรัฐบาลควรจะจัดระเบียบโดยออกเป็นกฎหมายในลักษณะเพื่อความมั่นคงของประเทศก็ได้ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นและปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาพำนักในไทยเองด้วย ต้องยอมรับว่า เวลานี้แรงงานต่างด้าวทะลักเข้ามาทำงานในประเทศไทยเราไม่น้อยทีเดียว ภาครัฐควรจะมีการวางมาตรการจัดระเบียบให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินต่อคนไทยเอง และนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้นกว่านี้ ยิ่งประเทศไทยเราจะต้อง เข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีด้วยแล้ว ก็อดเป็นห่วงเรื่องนี้ไม่ได้ หากแรงงานต่างด้าวทะลักกันเข้ามาเยอะๆ ภาครัฐจะสามารถบริหารจัดการดูแลในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นคนยุโรปได้อย่างไร รวมไปถึงแก๊งคนร้ายต่างชาติที่เข้ามาก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจหรืออาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย เพราะฉะนั้นอยากให้ท่านนายกฯ ได้จัดระเบียบและวางมาตรการในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นวาระแห่งชาติด้วยเถอะครับ ทำทั้งระบบไปเลย อย่างน้อยๆ ก็จะช่วยในเรื่องของการป้องกันภัยคุกคามจากการก่อการร้ายได้ไปในตัว ขอบพระคุณยิ่งครับ หนุ่ม เมืองชล เรียน ผู้ใช้นามแฝง "หนุ่ม เมืองชล" ขออนุญาตตอบจดหมายของคุณแทนคุณชัชนะครับเชื่อว่า ขณะนี้หน่วยงานรัฐที่ดูแลรับผิดชอบในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ดี หรือเจ้าหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับด้านความมั่นคงของรัฐคงไม่ได้นิ่งนอนใจกับประเด็นปัญหาต่างๆ ที่คุณว่ามานี้ก็ได้ครับ เพียงแต่ว่า คงกำลังหามาตรการที่มีความเหมาะสมอยู่ก็ได้ครับ โดยเฉพาะในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว ซึ่งเชื่อว่า ในแต่ละประเทศเพื่อนบ้านที่เข้าร่วมในเออีซีนั้นคงจะต้องมีข้อสรุปถึงแนวทางข้อตกลงในความร่วมมือกันทางปฏิบัติสำหรับการดูแลและป้องกันปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินกันอยู่แล้วครับ รวมไปถึงการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติอีกด้วยครับ เอาเป็นว่า ผมนำจดหมายของคุณที่เขียนแสดงความห่วงใยและกังวลใจเกี่ยวกับปัญหานี้ผ่านต่อให้หน่วยงานรัฐที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้ได้พิจารณาอ่านดูอีกทีแล้วกันนะครับ ด้วยรักและนับถือ เจริญชัย อุดมพาณิชวงศ์ "เชื่อว่า ขณะนี้หน่วยงานรัฐที่ดูแลรับผิดชอบในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ดี หรือเจ้าหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับด้านความมั่นคงของรัฐคงไม่ได้นิ่งนอนใจกับประเด็นปัญหาต่างๆ ที่คุณว่ามานี้ก็ได้ครับ เพียงแต่ว่า คงกำลังหามาตรการที่มีความเหมาะสมอยู่ก็ได้ครับ โดยเฉพาะในการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว"