กลายเป็นภาคต่อของความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐที่ยืดเยื้อ เมื่อเกิดความเคลื่อนไหวระดับ บิ๊ก ในท่วงทำนองที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าต่างฝ่าย ต่างวัดกำลังกันเอง ระหว่าง บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กับ พี่ใหญ่ อย่าง บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แม้ทั้งคู่จะออกมายืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งใด ๆ นอกเสียจากสื่อเขียนกันเองไปเองทั้งสิ้น ! แต่ดูเหมือนว่า การออกมาย้ำ ยืนยันรอบแล้ว รอบเล่าของทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ กับพล.อ.ประวิตร กลับไม่สามารถทำให้บรรยากาศภายในพรรคพลังประชารัฐ อยู่ในภาวะกลมเกลียว สมานฉันท์ได้แต่อย่างใด ยิ่งเมื่อเกิดภาพ บิ๊กป้อม ไปตรวจน้ำท่วมที่อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ ยกคณะพร้อมด้วย พี่รอง อย่าง บิ๊กป๊อกพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ที่อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พบปะพี่น้องประชาชน โดยที่ต่างฝ่าย ต่างมี กองหนุน แบ่งข้าง แบ่งฝ่ายระดมคนเพื่อแสดงพลัง แยกสายกันไปร่วมคณะของบิ๊กป้อม และบิ๊กตู่ ก่อนหน้านี้พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินสายลงพื้นที่ไปตามจังหวัดต่างๆเพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และติดตามการรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วม จนเกิดการตั้งข้อสังเกตว่า นายกฯ กำลังส่งสัญญาณว่าจะมีการยุบสภาฯ เร็วๆนี้หรือไม่ แต่จากนั้นต่อมา การลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ ได้กลายมาเป็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่กำลังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐ นั้นนอกจากจะยังไม่ยุติ ลงได้อย่างราบรื่นแล้ว ยังกลายเป็นว่าจากนี้ไปอาจเป็นการนับหนึ่งเพื่อเริ่มต้นเปิดศึกชิงอำนาจกันเองภายในพรรคตามมาหรือไม่ ? เมื่อข้างหลังพล.อ.ประวิตร ยังมีกลุ่มของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค เป็นหัวหอกสำคัญ ควบคู่ไปกับการทำงานร่วมกับ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ และในวันนี้ (23 ก.ย.64) พรรคพลังประชารัฐ จะมีการประชุมส.ส.เพื่อหารือกับแนวทางและบทบาทของพรรคว่าจะส่งผู้สมัครลงสนามเลือกตั้งอบต.หรือไม่ ที่อาคารรัฐสภา และต้องไม่ลืมว่าทางฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์ เองก็มี กองหนุน ที่ทั้งเปิดหน้า อย่าง สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่บัดนี้ได้ผนึกกำลังกับ กลุ่มสามมิตร ของ สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ไปเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังน่าสนใจว่า สมศักดิ์ นั้นมีพรรษาทางการเมือง เหนือกว่า ร.อ.ธรรมนัส หลายเท่านัก รู้ดีว่า เมื่อใดควรจะเปิดหน้าเล่น และเมื่อใด ควรจะถอยอยู่ในที่ตั้ง การแสดงพลังระดมไพร่พล รวบรวมส.ส. และนักการเมืองท้องถิ่นเพื่อไปร่วมคณะในการลงพื้นที่ของทั้ง 2ป. รอบนี้จึงเป็นแค่ น้ำจิ้ม ยังไม่ใช่จานหลัก ที่รอเสิร์ฟ ด้วยความดุเดือดในวันข้างหน้า !