การแสดงพลังของ พี่ใหญ่ อย่าง บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันประชุมสมาชิกพรรค ที่อาคารรัฐสภา 15 ก.ย.64 ที่ผ่านมา สามารถยุติทุกความวุ่นวายเอาไว้ได้ อย่างน้อยก็ต้องบอกว่าพักใหญ่ๆ ไม่เช่นนั้นแล้ว หากพี่ใหญ่ ยังปล่อยให้ความวุ่นวาย ความขัดแย้ง คุกรุ่นยืดเยื้อกันต่อไปเช่นนี้รังแต่จะทำให้ ปัญหาบานปลาย ลุกลามขยายวง จนทำให้แรงสั่นสะเทือน กระแทกไปถึง ตึกไทยคู่ฟ้า ไม่มีที่สิ้นสุด มิหนำซ้ำยังจะกลายเป็น จุดอ่อน ที่ทำให้ฝ่ายตรงข้าม นำไปใช้โจมตี จน บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่เป็นอันทำงาน การตอกย้ำให้สมาชิกมั่นใจจาก พล.อ.ประวิตร ว่าเขาจะไม่ไปไหน รวมทั้งยังกำชับด้วยว่าจากนี้ไป ใครมีปัญหาให้มาตน พรรคจะต้องไม่มี กลุ่มก๊วน มีมุ้งเดียว คือ มุ้งหัวหน้าพรรค ขอให้ช่วยกันทำให้พรรคมั่นคง ขอให้รักกัน สามัคคีกัน ช่วยกัน อย่ามีกลุ่ม มีก๊วน ต่อไปจะมีแต่กลุ่มหัวหน้าพรรค แล้วห้ามไปตั้งก๊วน ตั้งมุ้ง ส่วนมุ้งต่างๆ ที่เคยดูแล ส.ส.กันอยู่ ขอให้หยุด ต่อไปถ้าจะดูแล มาเอาที่ผม ผมรับผิดชอบคนเดียวเอง แน่นอนว่าในการประชุมพรรคครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นนัดสุดท้ายก่อนปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญ เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความปรองดอง โดยเฉพาะเมื่อ ชัดเจนแล้วว่า วันนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ยังคงตำแหน่งเลขาธิการพรรค และส.ส.พะเยา จะยังคงอยู่กับพรรค ไม่ไปไหน แม้จะถูกปลดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กำลังสะท้อนให้เห็นว่า ครั้งนี้ไม่เพียงแต่พล.อ.ประวิตร จะแสดงบารมีให้ศึกสงบเท่านั้น หากแต่ยังทำให้ร.อ.ธรรมนัส อยู่กับพรรค และทำงานให้พลังประชารัฐ ต่อไป เพราะอย่าลืมว่าเป้าหมายในการเลือกตั้งรอบหน้านั้น พรรคจะต้องได้ ส.ส.ไม่ต่ำกว่า 150 คนบนกติกาใหม่บัตรเลือกตั้ง 2ใบ ที่พรรคร่วมกันฝ่าฟัน จนผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ในวาระ 3 มาได้อย่างฉลุย หมายความว่า แทนที่พรรคพลังประชารัฐ จะคราว แตกหัก เมื่อหัวหน้ารัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ สั่งปลด ร.อ.ธรรมนัส คนสนิทของพล.อ.ประวิตร จนทำให้เกิดความระส่ำ แต่แล้วด้วยบารมีของพล.อ.ประวิตร จึงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆขึ้นในโครงสร้างพรรค สถานการณ์เช่นนี้ แน่นอนว่า ยังมีคำถามซ่อนอยู่มากมายว่าแท้จริงแล้วความบาดหมางนั้นยุติลงไปเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ แต่ทว่า เหนืออื่นใด สิ่งสำคัญมากที่สุด คือการที่ไม่ปล่อย เสือเข้าป่า ด้วยการยึดเก้าอี้เลขาธิการพรรค คืนจากร.อ.ธรรมนัส เพราะหากทำเช่นนั้น ปัญหาอาจยิ่งบานปลาย เนื่องจากกว่าที่หลายสิ่งหลายอย่างจะจบลงอย่างสงบเมื่อบิ๊กป้อม ขยับนั้นมีข่าวสะพัดว่าร.อ.ธรรมนัส เตรียมการไปตั้งพรรคการเมืองใหม่บ้าง เตรียมพลิกขั้วไปอยู่กับฝั่งตรงข้ามรัฐบาลบ้าง ดังนั้นหากเดินเกมแรง ก็จะมีแต่ แตกหัก ยิ่งเหมือนปล่อยเสือให้เข้าป่า และอาจกลายมาเป็น ศัตรู กับพรรคพลังประชารัฐ เสียเอง !