ศูนย์สำรวจความคิดเห็น สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หรือ "นิด้าโพล" เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน ในหัวข้อ "ความเป็นไปได้ทางการเมืองของ 3 ป." โดย "3 ป." คือ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ "บิ๊กป๊อก" พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่เต็มไปด้วยความยุ่งยาก และท้าทายต่อความสัมพันธ์ของ พี่น้อง 3ป. ยิ่งรัก
ทั้งนี้ผลการสำรวจชี้ว่า ความเป็นไปได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นสมัยสุดท้าย พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 32.06 ระบุว่า เป็นไปได้มาก
ความเป็นไปได้ว่า พล.อ.ประวิตร จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ภายหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 62.82 ระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลย
และต่อความเป็นไปได้ที่ว่า 3 ป. จะยังคงมีบทบาทในการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังการเลือกตั้งสมัยหน้าหรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 39.47 ระบุว่า ค่อนข้างเป็นไปได้
หากถอดรหัสจากนิด้าโพล จึงสะท้อนได้ว่าประชาชนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะเป็นนายกฯ สมัยสุดท้าย และ พล.อ.ประวิตร ไม่มีทางเป็นนายกฯ แต่ยังเชื่อว่า 3ป. จะยังคงมีบทบาทต่อการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งอีกแน่นอน
อย่างไรก็ดี ผลการสำรวจความเห็นของประชาชน ต่อปัญหาและความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่มีพล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค กลับเต็มไปด้วยรอยร้าว จนลุกลามบานปลาย ขยายบาดแผลในห้วงเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์ กำลังรับมือกับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งอยู่ในภาวะที่เปราะบางและสุ่มเสี่ยง แต่สุดท้ายพล.อ.ประยุทธ์สามารถเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด อาจเป็นเพียงการสะท้อนความคิดเห็นจากประชาชนที่มีต่อความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า แต่ย่อมไม่ใช่ "คำตอบสุดท้าย" ที่ฟันธงได้ว่า "โอกาสและความเป็นไปได้" ในวันนี้ คือ บทสรุปของเกมการเมืองทั้งกระดาน
โดยเฉพาะเมื่อหลายคนเริ่มเห็นแล้วว่า แท้จริงแล้วตัวพล.อ.ประยุทธ์ ยังมีอะไรให้เซอร์ไพรซ์อีกหลายเรื่อง จนอาจคาดไม่ถึง !
ไม่เช่นนั้นแล้ว คงไม่เกิดการตัดสินใจในลักษณะที่เรียกว่า "หักดิบ" กับ "พี่ใหญ่" ด้วยการปลด "2 รัฐมนตรีคนสนิท" อย่างที่เห็น และเมื่อปลดชนิดฟ้าผ่าแล้ว ยังดูเหมือนว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีท่าทีที่สบายอก สบายใจอย่างเห็นได้ชัด โดยล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ก.ย.64 ที่ผ่านมา นายกฯ ยกคณะไปตรวจเยี่ยมสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ อย่างอารมณ์ดี ทักทายประชาชนที่มารับการรักษา พร้อมกันนี้ยังยิ้มเสียงตะโกนให้กำลังใจ "นายกฯสู้ๆ" เหมือนกับว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่เคยเกิดอะไรขึ้นให้มีอันต้องขุ่นใจ !
ท่ามกลาง "กูรูการเมือง" หลากหลายสำนักที่ต่างพากันชี้เปรี้ยงออกมาว่า ให้นับถอยหลังอายุรัฐมนตรีกันได้เลย เมื่อพรรคใหญ่ ในฐานะแกนนำรัฐบาล ร้าวจนส่อ ว่าจะ "เละ" ด้วยเชื่อว่า จะมีส.ส.ในพรรคเตรียมตัวเดินตาม ร.อ.ธรรมนัส ออกไปเพื่อร่วมกันตั้งพรรคใหม่ หรือแม้แต่การที่แกนนำกลุ่มการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ เริ่มเปิดฉากแย่งชิง "2เก้าอี้รัฐมนตรี" ทั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศแล้วว่า "ไม่คิดปรับครม."
ทว่าความเคลื่อนไหวที่ส่อออกมาในทิศทางที่เป็น "ลบ" ต่อรัฐบาล หรือแม้แต่ตัวพล.อ.ประยุทธ์ เองหลังจากที่ตัดสินใจปลดคนของ "พี่ใหญ่" ถึง2ตำแหน่ง ก็ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ที่ตัวชี้วัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะนับถอยหลังเหมือนที่คนอื่นๆคาดการณ์เอาไว้เสียที่ไหน เพราะอย่าลืม หลายสิ่งหลายอย่าง ต้องรอจังหวะ และองศาที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังสวมบทลวมาคุมเองทั้ง การเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ไปพร้อมๆกับการพลิกมากุมการบริหารจัดการหลังงบประมาณ2565 ผ่านสภาฯ ไปแล้วอย่างฉลุย เท่ากับว่า จากนี้ไปยังมี "นโยบาย" ที่พร้อมจะทยอยออกมา !