ความเสียหายเมื่อเสร็จศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุด ปิดฉากลง เมื่อ4 ก.ย.64 ที่ผ่านมา ได้ชี้ให้แล้วว่า แท้จริงแล้ว ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ต่างได้รับบาดแผลจากศึกครั้งนี้ไม่น้อยหน้ากัน !
สำหรับ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องยอมรับว่ารอบนี้ "สาหัสไม่น้อย" เพราะเป็น "หัวหน้ารัฐบาล" แต่กลับได้คะแนนโหวตไว้วางใจจาก "พรรคร่วมรัฐบาล" ด้วยกันติดอันดับรองบ๊วย แม้จะมีการ "ยั้งมือ" ไม่หักกันกลางสภาฯ ด้วยการโหวตคว่ำ ตามที่ได้มีการเดินสายล็อบบี้เพื่อ "เขย่าเก้าอี้นายกฯ" ก็ตาม
แต่คะแนนโหวตที่กินอันดับรองบ๊วยเช่นนี้ คือการสะท้อนให้แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ นั้นอยู่ในสภาพที่เรียกว่า "ขาลอย" ไม่มีส.ส.อยู่ในสังกัดของตัวเอง อย่างชัดเจน แม้จะเอาตัวรอดมาได้อย่าง ได้คะแนนผ่านสภาฯฉลุย แต่ลึกๆแล้วทุกคนรู้ดีว่า "ความขัดแย้ง" ที่หวังจะโค่นนายกฯกลางสภาฯ นั้นเป็นเรื่องจริงและยังอาจปะทุขึ้นได้ทุกเมื่อ หากจากนี้ไป ความขัดแย้งยังไม่ถูกดำเนินการ อย่างใด อย่างหนึ่ง
แต่ที่ดูเหมือนว่า สถานการณ์ภายในพรคเพื่อไทยเอง ในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้านหนักหนาสาหัสไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ "นายใหญ่" ที่อยู่แดนไกล อย่าง "ทักษิณ ชินวัตร" ซึ่งในระยะหลังแม้จะใช้เวลาพบปะพูดคุยกับประชาชนผ่านคลับเฮ้าส์ในชื่อ "พี่โทนี วู๊ดซัม" แต่ใช่ว่าการต่อสู้ทางการเมือง เปิดหน้าซัดกับ พล.อ.ประยุทธ์ จะรามือไปด้วยแต่อย่างใด
มิหนำซ้ำยังกลายเป็นว่า ทักษิณ เองต้องบัญชาการทั้งสองทาง เพื่อตีโอบล้อมพล.อ.ประยุทธ์ ให้ลงจากตำแหน่งนายกฯ ทั้งในสภาฯ ไปจนถึงการส่ง "ลูกน้อง" อย่าง "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" แกนนำนปช. ลงไปเปิดเวทีไล่นายกฯบนท้องถนน จัดอีเว้นท์ให้กลายเป็น "ภาคต่อ" เมื่อศึกอภิปรายฯจบลง
ทว่า ทักษิณ เองกำลังเผชิญหน้ากับโจทย์ข้อยาก เพราะไม่เพียงแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จะผ่านมติไว้วางใจ ไปแล้วยังกลายเป็นว่าภายในพรรคเพื่อไทยเองยังมี "งูเห่า" ปรากฏขึ้นมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทย เคยมีคำสั่งออกเป็นหนังสือให้สมาชิกพรรคต้องโหวตไม่ไว้วางใจโดยพร้อมเพรียงกันมาแล้ว
แน่นอนว่าการฝ่ามติพรรคของส.ส.ที่โหวตหนุนฝ่ายรัฐบาล ย่อมไม่ใช่การ "ท้าทาย" กับ "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" หัวหน้าพรรค หากแต่นี่คือการฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าของพรรคตัวจริงอย่างทักษิณ ใช่หรือไม่
ยิ่งเมื่อในการโหวตลงมติครั้งนี้ ยังพบ "ความไม่ปกติ" เมื่อ "พรรคเพื่อชาติ" ในฐานะพรรคลูกข่ายของพรรคเพื่อไทยกลับมีส.ส.ในพรรคถึง 4 คนที่ไปโหวต "งดออกเสียง" ปล่อยให้ "สงคราม เลิศกิจไพโรจน์" หัวหน้าพรรคโหวตไม่ไว้วางใจ อยู่คนเดียว
โดย 4 ส.ส.พรรคเพื่อชาติ ที่โหวตงดออกเสียงให้กับรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายประกอบด้วย ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช,เพชวรรต วัฒนพงศศิริกุล ,ลินดา เชิดชัย และ อารี ไกรนารา
หมายความว่าทั้งสาขาใหญ่อย่างพรรคเพื่อไทย และพรรคสาขาย่อย อย่างเพื่อชาติ ในมือของทักษิณ กำลังถูกเขย่า จากศึกอภิปรายฯรอบนี้เสียเอง อีกทั้งยังไม่มีใครการันตีได้ว่า งานใหญ่ที่มอบหมายให้ณัฐวุฒิ ออกไปจัดม็อบเคลื่อนไหวบนท้องถนนนั้น จะบรรลุเป้าหมายได้หรือไม่ !?