ศึกซักฟอกรอบนี้ ต้องยอมรับว่าหวือหวา เร้าใจอย่าบอกใคร ! เพราะบนกระดานการเมืองรอบนี้ กลับเต็มไปด้วยสีสันทางการเมือง ที่ลึกลับ ซับซ้อน เกินกว่าจะคาดเดาไม่ว่าจะเป็น "ปีกรัฐบาล"เอง หรือแม้แต่ "ขั้วฝ่ายค้าน" ล้วนแล้วเป็นหมากการเมืองที่มีมิติบนความขัดแย้ง และสารพัดปัญหาไม่น้อยไปกว่ากัน คำสั่งของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อย่าง "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ถ่ายทอดไปยังส.ส.ในพรรค โดยกำชับว่าส.ส.ประชาธิปัตย์ จะต้องโหวตสนับสนุน "ไว้วางใจ" ทั้ง "นายกรัฐมนตรี" และ "6รัฐมนตรี" โดยพร้อมเพรียงกัน จะไม่มีการปล่อยฟรีโหวต เพราะจะนำไปสู่ปัญหา "การโหวตสวน" เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว แน่นอนว่า "นัยยะ" สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลว่าด้วยการสกัดปัญหาการปล่อยฟรีโหวต ย่อมผิดแผกแตกต่างไปจาก "ประกาศิต" จาก "พรรคเพื่อไทย" อย่างสิ้นเชิง !! 30 ส.ค.64 ก่อนถึงฉากเปิดเริ่มต้นการพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ปรากฎว่า พรรคเพื่อไทยออกหนังสือในนาม "สมพงษ์ อมรวิวัฒน์" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กำหนดทิศทางการลงคะแนนในญัตติซักฟอก 4 ก.ย.นี้ เอาไว้ชัดเจนว่า " ห้ามแตกแถว" ! ใจความหลักระบุว่า "เพื่อให้การตรวจสอบฝ่ายบริหารด้วยการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจข้างต้น เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามญัตติที่พรรคได้เสนอไป จึงขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนในการลงมติให้เป็นไปตามแนวทางและนโยบายของพรรคด้วยการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีทุกคนที่ถูกอภิปราย ทั้งนี้ หากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคท่านใดฝ่าฝืนไม่มาประชุมเพื่อลงมติหรือลงมติที่ผิดไปจากนโยบายของพรรคข้างต้น พรรคถือว่าสมาชิกผู้นั้นกระทำการอันเป็นการผิดวินัยและจริยธรรมของการเป็นสมาชิกพรรคอย่างร้ายแรง ซึ่งมีโทษถึงขั้นให้พ้นจากสมาชิก โดยพรรคจะดำเนินการตามข้อบังคับพรรค อย่างเด็ดขาดต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด" ตามมาด้วยการสำทับจาก "ประเสริฐ จันทรรวงทอง" เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่า หากส.ส.คนใดไม่โหวตตามมติพรรค นอกจากไม่สามารถตอบพี่น้องประชาชนได้แล้ว พรรคจะดำเนินการตามข้อบังคับพรรค ตามที่หัวหน้าพรรคได้ออกหนังสือเอาไว้ การลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีนั้น ส.ส.ห้ามป่วย ห้ามลา ห้ามขาดการประชุม แน่นอนว่า การที่พรรคเพื่อไทยวางกฎเหล็กเอาไว้เช่นนี้ ย่อมต้องการป้องกันปัญหาการแตกแถวของส.ส. แล้ว อีกทางหนึ่งยังเป็นการสะท้อนให้แล้วว่า เบื้องลึกเบื้องหลังภายในพรรคเพื่อไทยนั้นเต็มไปด้วยไม่แน่นอน ขาดเอกภาพอย่างรุนแรง ลึกๆแล้ว หลายคนรู้ดีว่า คำสั่งดังกล่าวย่อมมาจาก "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ในฐานะเจ้าของพรรคตัวจริง เพราะต้องการอุดรอยรั่วของพรรค หลังจากที่พรรคประสบปัญหา "งูเห่า" เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งหลายคราวในการประชุมสภาฯ วาระสำคัญๆ อีกทั้งพรรคเพื่อไทย ยังมีส.ส.ในพรรคจำนวนไม่น้อยถูกทาบทาม ชักชวนให้ "ย้ายพรรค" ทั้งการไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐพรรคแกนนำรัฐบาล และพรรคในปีกรัฐบาล พรรคอื่นที่มีอนาคตสดใส มากกว่า ยังไม่นับรวมการทิ้งพรรคเพื่อไปเปิดตัวกับพรรคหน้าใหม่ที่เตรียมแต่งตัวลงสนามเลือกตั้ง ครั้งหน้า กันอย่างคึกคัก ดังนั้นเมื่อในความเป็นจริงที่เกิดขึ้น มาจากความไม่เป็นเอกภาพภายในพรรคเพื่อไทยเอง ในวันที่ยังต้องลุ้นว่า ที่สุดแล้ว "พี่โทนี" เจ้าของพรรคตัวจริงเสียงจริง จะได้ "กลับไทย" ได้จริงตามที่ประกาศเอาไว้หรือไม่ หรือการที่ยังต้องรอคอยด้วยความหวังว่า พรรคเพื่อไทย จะได้รับ "เทียบเชิญ" ให้เข้าร่วมรัฐบาล ทั้งในรอบนี้และการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ สิ่งต่างๆเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็น "ความหวัง" ที่ยังไม่มีใครตอบได้ว่า จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ ขณะที่การเปิดดีล เปิดโต๊ะเจรจา กับ "แกนนำ" ในพรรครัฐบาลยังเดินหน้าต่อไปอย่างเงียบๆแต่หนักแน่น จึงน่าสนใจว่า "ปกาศิต" ที่มาพร้อมคำสั่งจากพรรคเพื่อไทย ครั้งนี้จะขลังจริงหรือไม่ หรือจะยิ่งเป็นการท้าทาย ให้ "งูเห่า" เปิดตัว เตรียมจับจอง "ที่นั่ง" ในบ้านหลังใหม่ ในพรรคใหม่ ที่รอวันย้ายสังกัด !