ทีมข่าวคิดลึก
ข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจพบอาวุธสงคราม ซุกซ่อนอยู่ที่อำเภอบางน้ำเปรี้ยวจ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมากำลังจะถูก "ขยายผล" ด้วยกันหลายทาง ทั้งการปลุกความหวาดกลัวขึ้นมาในสังคม ลดทอนความวุ่นวายทางการเมืองหรือแม้แต่การสะท้อนให้เห็นว่า วันนี้ในบ้านเมืองยังคงต้องโฟกัสกันไปที่เรื่องความมั่นคง ไม่น้อยไปกว่าประเด็นอื่นๆ สืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหาร สนธิกำลังเข้าตรวจค้นอาวุธ ที่พบภายในริมคลองน้ำข้างนาของนายภูมินทร์ เลาะเนาะ อายุ 38 ปี พื้นที่หมู่ 15 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ประกอบด้วย ระเบิดขว้างสังหาร RDD จำนวน 30 ลูก, ไปป์บอมบ์ท่อพีวีซี 2 นิ้ว จำนวน 7 ลูก, แท่งระเบิดTNT ขนาด 1/2 ปอนด์ จำนวน 1 แท่ง,ลูกระเบิดยิงขนาด 40 มม. จำนวน 2 ลูกและกระสุนปืนขนาดต่างๆ จำนวนหลายพันนัด ชุดสวิตช์สำหรับต่อวงจรไฟฟ้า 1 ชุด อาวุธปืนอาก้า 2 กระบอก
ทั้งนี้ "บิ๊กปู" พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยกับสื่อว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นอาวุธสงครามเซตเดียวกับ "โกตี๋" วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ ที่เคยใช้ยิงสำนักงานคณะกรรมการป้อง
กันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ขว้างระเบิดที่ประตูน้ำเป็นของกลุ่มก่อความไม่สงบเมื่อปี 2557 โดย ลูกระเบิดและอาวุธปืนเป็นของรัสเซีย จากการสอบถามผู้ที่พบอาวุธในครั้งนี้ทราบว่าน่าจะเอามาเก็บซ่อนไว้ประมาณ 2 เดือนเนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่พบอาวุธดังกล่าวคาดว่าเตรียมไว้ก่อความไม่สงบเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้กับ กทม.
จากนั้นถัดมาเพียงวันดียว ได้เกิดความเคลื่อนไหวขึ้นตามมาจากฝ่ายความมั่นคง และ "บิ๊ก คสช." อย่าง "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออกมาระบุว่า ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ตรวจสอบ แต่ได้รับรายงานว่าเป็นอาวุธลอตเดียวกับที่ใช้เตรียมก่อเหตุที่หน้าศาลอาญา เมื่อปี 2557 ขณะที่ "บิ๊กลภ" พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการ
สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เองยอมรับว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับ "กลุ่มการเมือง" หรือไม่ และที่ผ่านมามีรายงานการข่าวมาโดยตลอดว่ายังมีอาวุธสงครามหลงเหลืออยู่หลายแห่ง
อย่างไรก็ดี น่าสนใจว่า ในระหว่างที่กระแสการตรวจพบอาวุธสงคราม จำนวนมากเกิดขึ้นในจังหวะที่การเมืองกำลังวุ่นวาย เมื่อ "นักการเมือง" ต่างพากัน "ท้าทาย" คสช. ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่นเดียวกันกับการที่ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ
หัวหน้า คสช. เองได้ลดการตอบคำถามกับสื่อลงจากนั้นมีความเคลื่อนไหวผ่าน"เพจไทยคู่ฟ้า" ทำหน้าที่เป็นเสมือน"กระบอกเสียง" แทนในหลายเรื่อง ทั้งการเผยแพร่ข้อความ เรื่องการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ กรณีการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่เทพา ว่า "รัฐ บาลยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องการสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานถ่านหินเทพา ที่มีกำลังผลิต2,200 เมกะวัตต์ โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ และจะพิจารณาอย่างรอบคอบ"
หรือแม้แต่การออกมาให้ข้อมูล เรื่องการตอบคำถาม 4 ข้อ 6 ข้อของนายกฯ จากประชาชน ที่ระบุว่าส่วนใหญ่ยังให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกฯ ต่อไป แน่นอนว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ จะมีความเชื่อมโยงกับการลดทอนความวุ่นวายทางการเมืองให้สงบลงโดยปริยาย เมื่อเกิดความหวั่นไหวอันสืบเนื่องมาจากสถานการณ์ความไม่มั่นคง ที่วันนี้ยังมีอาวุธซุกซ่อนอยู่ หรือไม่ก็สุดจะคาดเดา