บนความอ่อนไหวของสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังกลุ้มรุม ขย้ำรัฐบาลให้ซวนเซ ยามนี้ ต้องถือว่าเป็น "โอกาสทอง" ที่ "คู่ปรับ" จะหยิบฉวยบริหารจัดการ อย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้เกิดความได้เปรียบ และเกิดประโยชน์สูงสุด ! อีเวนท์การเมืองเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ต้องถือว่าเป็นการจับมือกันระหว่าง "เต้น" ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับ "บก.ลายจุด" สมบัติ บุญงามอนงค์ นักการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ ต่อต้านรัฐบาลของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันท์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาตั้งแต่แรกเริ่ม ภายใต้กิจกรรมที่เรียกว่า "Car Park" โดยเป็นการเคลื่อนไหวที่ใช้รูปแบบทั้ง คาร์ม็อบ ใช้รถยนต์ที่มาร่วมขบวน ไปพร้อมกับมีการปราศรัย เป็นการทำกิจกรรมเพื่อแสดงให้เห็นว่านี่คือพลังของมวลชนในบ้านเมืองที่ต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล โดยเชื่อว่าจะเป็นม็อบที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยเจอมา การจัด "Car Park" ภายใต้ความร่วมมือระหว่างเต้น ณัฐวุฒิ กับ บก.ลายจุดครั้งนี้ แน่นอนว่าจะเป็นการเปิดฉากเพื่อเข้าสู่ "ปฏิทินม็อบรายวัน" หล่อเลี้ยงกระแสไปจนกว่า ใกล้ถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรี ในราวเดือนก.ย. เท่ากับว่าจะเป็นการโจมตี "ศัตรู" ทั้งในและนอกสภาฯในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ดี น่าสนใจว่าการเคลื่อนไหวทางการเมือง ของ ณัฐวุฒิ ครั้งนี้กำลังอยู่ในลักษณะที่ต้องเรียกว่า "โหนกระแส" ไปกับ ม็อบเยาวชนในนาม "ม็อบราษฎร" ที่มีข้อเรียกร้องชัดเจน มากกว่าความต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก หรือเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ หากแต่เป้าหมายคือการ "ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์" เป็นหลักใหญ่ แน่นอนว่า การเคลื่อนไหวของม็อบราษฎร ที่ยาวนานตั้งแต่ปี 2563 จนล่วงเข้าสู่ปัจจุบัน ลึกๆแล้ว "แกนนำ" และ "คนเบื้องหลัง" เองก็รู้ดีว่า ข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ในบ้านเมืองไม่เอาด้วย แต่ดูเหมือนว่า ในช่วงระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ม็อบราษฎร เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ เพราะต้องเสีย "แกนนำ" หลายรายไปกับการต่อสู้คดีความ โดยเฉพาะในมาตราที่หนักหนาสาหัส ทั้งความผิดในกฎหมายอาญา ม.116 และม.112 แต่เมื่อมวลชนในโลกโซเชี่ยล ได้ถูกปลุกออกมาสู่ภาคสนามด้วย "ความหวัง" ว่าข้อเรียกร้องอาจเกิดขึ้นได้จริง การปราฎตัวของ "แกนนำคนเสื้อแดง" จึงเริ่มออกมาโลดแล่น อย่างที่เห็นทั้ง "ตู่" จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. ที่ประกาศตัวด้วยความฮึกเหิม แต่สุดท้ายกลับไม่มีน้ำหนักใดๆ จนมาถึงการส่งไม้ต่อให้ ณัฐวุฒิ โดดลงมาทำหน้าที่ "แกนนำ" ดึงพี่น้องคนเสื้อแดงที่ระดมกันมาได้ กลับมาขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ บนท้องถนนร่วมกับผู้ชุมนุมเยาวชนอย่างที่เห็น ทว่า "เป้าหมาย" การออกมานำมวลชนของณัฐวุฒิ ที่ฉวยเอาผู้ชุมนุมที่ถูกปลุกขึ้นมาก่อนหน้านี้จากม็อบราษฎร ย่อมสวนทางกับม็อบเยาวชนที่ต้องการให้ปฏิรูปสถาบันอย่างแน่นอน เพราะเป้าจริงของพี่น้องคนเสื้อแดงวันนี้คือความพยายามเปิดประตูเพื่อต้อนรับการกลับมาของ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ที่ล่าสุดออกมาประกาศว่าจะกลับบ้าน หลายครั้งหลายครา การเผชิญหน้าทางการเมืองวันนี้ จึงเกิดภาพซ้อนที่เริ่มชัดเจนมากขึ้นแล้วว่า "คู่กรณี" นั้นมีเพียง พล.อ.ประยุทธ์ กับ ทักษิณ เท่านั้น ยิ่งเมื่อสำรวจตรวจสอบไปยังการเคลื่อนไหวต่อต้าน "คนเสื้อแดง" จากกองเชียร์ของพล.อ.ประยุทธ์ ล่าสุดพากันขยายแนวคิด ปลุกมวลชนให้ออกมาช่วยกัน "ขับไล่คนหน้าเหลี่ยม" รอบใหม่กันแล้ว !