ทีมข่าวคิดลึก จากโปรแกรมเดิมที่วันนี้ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะต้องนำทีม "6 รองนายกรัฐมนตรี" แถลงผลงานรัฐบาล หลังบริหารประเทศครบรอบ 2 ปี แต่ต้องมีอันเลื่อนวันแถลงออกไปเป็นวันที่ 15 ก.ย.แทน เนื่องจากรองนายกฯ หลายคนติดภารกิจ แต่ถึงกระนั้น "คะแนนนิยม" ของตัว "บิ๊กตู่" ก็ได้กลายเป็น"ฐานที่มั่น" ค้ำยันให้ ครม.ทั้งคณะอยู่แล้ว ! ทั้งนี้การแถลงผลงานรัฐบาล ในวันที่ 15 ก.ย.นี้ได้มีการวางรูปแบบเอาไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่เคยทำกันมา โดยในรอบนี้ รัฐบาลจะหยิบยก "ผลงาน" ที่นายกฯ ได้สั่งการลงไปมาแถลง แทนการเล่าเรื่องเป็นลักษณะ"รายกระทรวง" รวมทั้งการเปิดภาพให้เห็นว่า ในช่วงปีที่ผ่านมานั้นรัฐบาลได้วางรากฐานเศรษฐกิจเอาไว้ให้อย่างไรบ้างและที่สำคัญยังจะมีการนำเสนอ "บทบาทไทย" บน "เวทีโลก" ว่า ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร นั่นหมายความว่าการเลือกรูปแบบเช่นนี้ เพื่อต้องการนำเสนอ "ผลงาน" อย่างเป็น "รูปธรรม" ขณะเดียวกันยังจะสามารถลดปัญหาสำหรับบางกระทรวงที่ไม่มีผลงานโดดเด่น รวมถึงการเลือกชูภาพบทบาทของไทยยบนเวทีนานาชาติ ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง เพื่อลดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายตรงข้ามทั้งในและนอกประเทศอีกทั้งยังต้องการสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร ก็สามารถเรียกความเชื่อมั่น สร้างการยอมรับให้เกิดขึ้นได้ แม้จะถูกต่อต้านอย่างหนักจากประเทศมหาอำนาจในช่วงแรกก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจ อาจไม่ได้อยู่แค่เรื่องของการแถลงผลงานรัฐบาลเมื่อครบรอบ 2 ปี หากแต่การติดตามโรดแมปของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านแม่น้ำสายต่างๆ ในฐานะตัวจักรสำคัญ ที่ไม่เพียงแต่จะทำหน้าที่วางกรอบให้กับประเทศในด้านต่างๆเท่านั้น หากแต่ยังถูกมองว่า กรอบที่ว่านั้น ยังหมายความรวมไปถึงการสืบทอดอำนาจของ คสช.เอง ในรูปแบบต่างๆ ทั้งโดยผ่านกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับที่ 20 ไปจนถึงการยึดกุมหัวใจของประชาชน โดยตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่สามารถกวาดเรตติ้ง สร้างคะแนนนิยม ภายในชั่วระยะเวลาสองปีเศษหลังการยึดอำนาจ จนกลายเป็น"คู่แข่ง" คนสำคัญของนักการเมือง การก้าวขึ้นสู่ปีที่ 3 ของรัฐบาลและคสช.ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จากนี้ต่อไป คือภารกิจการสร้างทั้ง "เสถียรภาพ" และ "คะแนนนิยม" ให้เกิดขึ้นต่อรัฐบาล และ คสช. มากกว่าที่ผ่านมาต้องอาศัยคะแนนของ พล.อ.ประยุทธ์เพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูเหมือนว่า สถานการณ์รอบด้านยิ่งเอื้ออำนวยให้ปฏิบัติการรุกและกินรวบของ คสช.ในช่วงปีที่ 3 สามารถเดินหน้าได้อย่างสะดวกราบรื่น เพราะต้องไม่ลืมว่าภาพลักษณ์ของ "นักการเมือง" ถูกโจมตีและทำให้ตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เหตุการณ์ 22 พ.ค.2557 เป็นต้นมา จนถึง ณ เวลานี้ ยิ่งเมื่อถูกตอกย้ำด้วย "ร่างรัฐธรรมนูญ"ไปจนถึงการลดทอนกำลังของบรรดานักการเมืองทั้งจากพรรคใหญ่ไปจนถึง พรรคเล็ก ที่ล้วนแล้วแต่รอด้วยความหวังสุดท้ายคือการเลือกตั้งปี 2560 หากยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เมื่อวันเวลานั้น!