ความเคลื่อนไหวทางการเมือง วันนี้ดูเหมือนว่า ไม่มีสีสันหรือประเด็นแปลกใหม่ให้ "คอการเมือง" ได้มีลุ้น เพราะ "ฝ่ายค้าน" ยังคงฉวยโอกาส "ตีกิน" ด้วยการดาหน้าออกมา "โหนกระแส" โจมตี รัฐบาล แข่งกับดารานักแสดง เมื่อรัฐบาลเองกำลังซวนเซ บริหารสถานการณ์ ในภาวะที่บ้านเมืองกำลังเผชิญ "วิกฤตโควิด" จนเกิดความผิดพลาด เกิดเป็น "จุดอ่อน" ให้ "ฝั่งตรงข้าม" พากันวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด แต่แล้วล่าสุด ก็เกิด "คลื่นลม" เกิดปฏิกริยา จากฝ่ายรัฐบาลด้วยกันเองในจังหวะที่ "กัปตันเรือเหล็ก" อย่าง "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำลังย่ำแย่ เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 20 ก.ค.64 ตอนหนึ่งว่าของการตอบคำถามของสื่อ ว่า "ดูแต่ละคำถาม ถามแบบนี้จะให้ตอบอย่างไร ผมไม่ได้ทำงานคนเดียว เราทุกคนช่วยกันทำงาน ผมไม่คิดว่าเป็นเวลาของการเล่นการเมืองนะ ถ้าท่านจะออกจากผมก็แล้วแต่ ผมก็จะทำงานของผมต่อไป ผมไม่ทิ้งคุณ พวกคุณจะทิ้งผมก็ตามใจ" แน่นอนว่าสัญญาณที่ออกมาจากพล.อ.ประยุทธ์ ครั้งนี้ย่อมพุ่งเป้าไปที่ "พรรคร่วมรัฐบาล" อย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา ว่าใครจะทิ้ง ก็ตามใจ แต่ตนเองยังจะคงเดินหน้าทำงานต่อไปรอบนี้ ได้กลายเป็นประเด็นร้อนที่ดึงความสนใจขึ้นมาทันที เพราะมีคำถามตามมาว่า "เกิดอะไรขึ้น?" ภายในรัฐบาล อย่างนั้นหรือ พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องออกมาส่งสัญญาณที่แปลกและแปร่งเช่นนี้ และไม่ว่าสัญญาณจากพล.อ.ประยุทธ์ จะส่งตรงไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดก็ตาม แต่ล่าสุดมีปฏิกริยาเกิดขึ้นจาก "พรรคภูมิใจไทย" เมื่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและ "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรค ต่างออกมาประสานเสียงยืนยันว่า ไม่ทิ้งนายกฯและอยู่ร่วมรัฐบาล ไปจนครบเทอม ขณะที่ "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์" รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์เน้นการทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่ซ้ำเติมวิกฤติ และที่สำคัญคือไม่โกง ท่าทีจากแกนนำสองพรรคร่วมรัฐบาลเช่นนี้ ทางหนึ่งคือการเรียกความเชื่อมั่น ว่าเมื่อลงเรือลำเดียวกันแล้ว พรรคร่วมฯ ก็ต้องช่วยกันประคองสถานการณ์ อยู่ร่วมกันไป ให้ตลอดรอดฝั่ง จนครบเทอม แต่ขณะเดียวกันกลับน่าสนใจว่าท่าทีจากพล.อ.ประยุทธ์ ต่างหากที่กำลังแสดงให้เห็นว่า "ไม่แคร์" แม้ในภาวะคับขัน ถูกกดดันจากทั้งในและนอก ครม.อย่างหนัก แต่ไม่ได้หมายความว่า คนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จะยอมจำนน เป็นฝ่ายยอมให้ถูกบีบอยู่ฝ่ายเดียว ! จะด้วยภาวะความเป็นผู้นำ ด้วยความเป็นทหารของพล.อ.ประยุทธ์ การที่จะยอมให้ "ฝ่ายการเมือง" ทั้งในและนอกทำเนียบฯ เปิดฉากรุกไล่ เพื่อไล่บี้ อยู่ฝ่ายเดียวคงไม่ถูกนัก เพราะอย่าลืมว่า เมื่อรัฐบาล ตั้งหลักได้ ตั้งตัวได้เมื่อใด โอกาสที่คะแนนพลิกกลับ ย่อมเกิดขึ้นตามมา เมื่อถึงเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นฝ่ายกำหนดเกมอีกครั้ง แต่นั่นหมายความว่า ในช่วงล็อคดาวน์ 14 วันรอบแรก รอบนี้ รัฐบาลจะแก้โจทย์ข้อยากอย่างไร ทั้งการบริหารจัดการวัคซีน การรักษาปราการด้านระบบสาธารณสุขไม่ให้ล่มสลาย จนคุมกันไม่ได้เหมือนที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน !