มีเสียงบ่นว่า “พระปล่อยเงินกู้” ชาวบ้านเห็นแล้วรู้สึกว่าไม่เหมาะสม
แต่พระผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่ปกครองสงฆ์ท้องที่นั้นบอกว่าไม่ผิด
ถ้าจะพิจารณาว่า การออกเงินกู้รายนี้มีเจตนาช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนทุกข์ยาก ไม่มีเจตนากำไร มันก็ยังเป็นเรื่องที่สังคมติเตียนได้
เพราะถ้ามีเจตนาเช่นนั้น ก็ควรทำในนามองค์กร แม้จะตั้งเป็นนิติบุคคลยาก ก็สามารถทำได้ในนามชมรม หรือกลุ่มอะไรก็ได้ประจำวัดนั้น แล้วเมื่อบริสุทธิ์ใจจริง มีกรรมการหลายคนร่วมกันดูแล ช่วยคนทุกข์คนยากจริง ก็จะได้รับแต่คำชมเชย
ปัญหาต่อมาคือเรื่อง พระผู้ใหญ่ที่เรียกกันว่า “เจ้าคณะ” นั้น ท่านตัดสินได้หรือไม่ว่า ริ่งปล่อยเงินกู้นั้นผิดหรือไม่ผิดวินัยสงฆ์ เรื่องของวินัยสงฆ์เป็นเรื่องที่สงฆ์ตัดสิน แต่เมื่อชาวบ้านเขาไม่เห็นด้วย แล้วจะทำอย่างไรกันดี
ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยเสนอความเห็นไว้ว่า
"เรื่องการปกครองสงฆ์นั้น นอกจากจะมีการผ่อนหนักผ่อนเบา ทางด้านกฎหมาย ทางด้านระมัดระวังหรือระแวงจนเกินไปแล้ว กระผมก็คิดเห็นว่า จะต้องเคร่งครัดและเข้มงวดทางด้านพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง
คือ ความจริงระเบียบอะไรก็ตาม กฎอะไรก็ตามทีที่จะใช้ปกครองสงฆ์นั้น ควรจะตรงกับพระธรรมวินัยทุกข้อ ไม่ควรจะคลาดเคลื่อน หรือไม่ควรว่าจะเป็นการอนุโลม หรืออะไรอย่างนั้น ไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง
กระผมคิดว่า เรารักษาพระธรรมวินัยกันไว้ให้เคร่งครัดแล้ววิกฤติต่างๆก็ไม่เกิด เพราะพระธรรมวินัยนั้นเองเป็นเครื่องป้องกันวิกฤติในคณะสงฆ์อยู่แล้ว
พระภิกษุในสมัยพุทธกาลที่ไปก่อเหตุจนพระพุทธเจ้าต้องบัญญัติพระวินัยออกมาแต่ละข้อนั้น เป็นพระภิกษุที่ทำวิกฤติให้เกิดขึ้น ไปทำอะไรจนชาวบ้านเขาเดือดร้อน เขามาร้องนั่นวิกฤติแล้ว พระพุทธเจ้าก็ออกกฏข้อบังคับเป็นพระวินัย เป็นการแก้วิกฤติตลอดมา ถ้าถึงสมัยนี้เราไม่ยึดพระวินัยแล้ว วิกฤติจะประเดประดังเข้ามา จนเราไม่สามารถจุแก้ได้ พระธรรมวินัยจึงเรียกได้ว่า เป็นของสำคัญเหลือเกินในการที่ป้องกันวิกฤตินั้นเองที่จะเกิดขึ้นแก่พระศาสนา
เพราะฉะนั้น ในเรื่องเหล่านี้ คือในเรื่องกระจายอำนาจ ในเรื่องรักษาพระธรรมวินัยเหล่านี้ การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ของสงฆ์ จะเป็นเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลลงไป ตลอดจนพระที่มีหน้าที่อื่นๆจะต้องอาศัยพระธรรมวินัย คือดูว่า ท่านผู้ที่จะได้รับแต่งตั้งนั้นท่านเป็นอย่างไรในพระธรรมวินัย ท่านประพฤติดี ประพฤติชอบ เคร่งครัดดีอยู่หรือ หรือว่าท่านเป็นคนย่อหย่อนเอายังไงก็ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าจะแต่งตั้ง แต่งตั้งพระที่เคร่งครัดพระวินัยไว้เห็นจะดีกว่า
ที่สำคัญที่สุดก็คือ พระผู้ใหญ่เห็นจะต้องสนใจในการตั้งพระหน้าที่ต่างๆ เช่น เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เป็นต้น ให้มากกว่าแต่ก่อน ไม่ใช่ว่าปล่อยเลยตามเลย ปล่อยตามยถากรรม แล้วก็เกรงใจกัน ไม่อยากจะให้เดือดร้อนกับใคร ถ้าอย่างนั้น วิกฤติเกิด ไม่มีทางแก้ได้”