เหมือนเป็นความจงใจที่จะ "ท้าทาย" เพื่อแสดงให้รัฐบาลและโดยเฉพาะ "ฝ่ายความมั่นคง"ได้เห็นว่า คำสั่งที่ออกมาบังคับใช้กับ "กลุ่มมวลชน" นั้นไม่มีความหมาย !
เมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับความมั่นคง เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) (ฉบับที่ 6 ) มีสาระหลักอยู่ที่คำสั่งห้ามไม่ให้มีการชุมนุม มั่วสุมทำกิจกรรม อันเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 "ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูง หรือพื้นที่เฝ้าระวัง"
"หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้ ต้องรับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน สี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
ประกาศดังกล่าวออกมาเมื่อวันที่ 16 ก.ค. แต่ปรากฎว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค. 64 ม็อบเครือข่ายกลุ่มราษฎร นัดรวมพลในนาม "ม็อบ 18กรกฎา" ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้ "ลาออก" อย่างไม่มีเงื่อนไข ให้ปรับลดงบประมาณของสถาบันฯและกองทัพบก เพื่อนำงบประมาณมาช่วยเหลือประชาชนช่วงมีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และที่สำคัญรัฐบาลต้องจัดสรรวัคซีนชนิด mRNA ฉีดให้แก่ประชาชน
การรวมตัวของม็อบราษฎรหลังมีคำสั่ง ห้ามไม่ให้มั่วสุม ชุมนุม ครั้งล่าสุดรอบนี้ คือความจงใจที่จะแสดงให้เห็นว่านอกจากกฎหมายจะไม่สามารถ "หยุดยั้ง" การชุมนุมต่อต้านรัฐบาลได้แล้ว ยังชี้ให้เห็นด้วยว่าสถานการณ์วันนี้ รัฐบาลอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอ เปิดจุดอ่อนให้เห็น จนทำให้ฝ่ายตรงข้าม "มีความหวัง" ว่าช่วงเวลานี้คือ "โอกาสทอง" ที่จะ "เขย่า" พล.อ.ประยุทธ์ ให้ร่วงหลุดจากเก้าอี้ได้เสียที
การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งที่หน้ากระทรวงสาธารณสุข ที่ผ่านมา จนเกิดการปะทะกันระหว่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจกับผู้ชุมนุม จนมีตำรวจได้รับบาดเจ็บ มาถึงการนัดหมายรวมตัวกันของ "ม็อบ 18 กรกฎา" เมื่อวันอาทิตย์ล่าสุด แม้ด้านหนึ่งคือความจงใจที่จะ "ป่วน" แต่ขณะเดียวกัน ยังแสดงให้เห็นว่าคำสั่งคุมเข้มจากศปก.ศบค. ฝ่ายความมั่นคง นั้นไม่มีผลใดๆ ที่จะ "หยุดยั้ง" ปฏิบัติการขับไล่รัฐบาล ลงได้
การโหมเกมไล่พล.อ.ประยุทธ์ โจมตีรัฐบาลในห้วงเวลานี้จากฝ่ายตรงข้ามนั้นต้องยอมรับว่ามาถูกที่ ถูกเวลา เพราะปัญหาจากการบริหารจัดหาวัคซีนที่ผิดพลาด ของรัฐบาล เดินควบคู่ไปกับวิกฤตมีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น อีกทั้งกระแสความเชื่อมั่นของรัฐบาลมีแต่ถดถอย ยิ่งมาเจอประเด็นที่ว่าด้วยกองทัพเรือยังเดินหน้าจัดสรรงบประมาณเพื่อซื้อเรือดำน้ำ จนกลายเป็น ช่องโหว่เปิดให้ปัญหาเรือดำน้ำ มาชนกับวิกฤตวัคซีนยิ่งทำให้รัฐบาลถึงขั้น "ไปไม่เป็น" !
นาทีนี้ แน่นอนว่าการเคลื่อนไหวชุมนุมของม็อบราษฎร โดยใช้แกนนำที่ยังสามารถ "ขยับ" อยู่นอกเรือนจำได้ทำหน้าที่เป็นผู้เล่น คงไม่คาดหวังถึงขั้น "ล้มรัฐบาล" หรือ "ไล่บิ๊กตู่" ลงได้อย่างเบ็ดเสร็จ แต่ทว่าเมื่อโอกาสอำนวย มีหรือจะปล่อยให้หลุดมือโดยไม่ทำอะไร มิหนำซ้ำ ยังมีแต่ได้ กับได้ ทั้งกระแส และ กระสุน ที่เข้ามาเติมให้กับการเคลื่อนไหวครั้งต่อๆไปได้อีกต่างหาก!