สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นของการระบาด จากการโจมตีของไวรัสสายพันธุ์เดลตา โดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
รายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศอ้างว่า แม้สหรัฐฯจะมีการฉีดวัคซีนในวงกว้าง แต่อัตราการฉีดเริ่มลดลงในระยะหลัง ผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบทั้งหมด คือ 99.7% อยู่ในกลุ่มคนที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) คาดการณ์ว่าสายพันธุ์เดลตาซึ่งถูกระบุครั้งแรกในอินเดียคิดเป็น 51.7% ของการติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ทั้งหมดในประเทศสหรัฐ
เอเอสทีวีผู้จัดการรายงาน อ้างความเห็นของดร.ซุมยา สวามินาธาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวถึงไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ในรายการวิทยาศาสตร์ใน 5 นาที ว่า สายพันธุ์เดลตา เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลสายพันธุ์ที่ 4 ที่องค์การอนามัยโลกได้มีการระบุไว้ ด้วยเหตุผลที่ว่า แพร่กระจายได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม และยังสามารถต้านแอนติบอดี (ภูมิคุ้มกัน) ที่มีในเลือดของเราได้ด้วย นั่นหมายความว่า เราต้องการแอนติบอดีในระดับที่สูงกว่าเพื่อที่จะสู้กับสายพันธุ์นี้ เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อัลฟา เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ดร.ซุมยาระบุว่า ข่าวดีคือ วัคซีนทั้งหมดที่องค์การอนามัยโลกอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินสามารถป้องกันอาการรุนแรง การเข้าโรงพยาบาล และการเสียชีวิต ซึ่งอาจเกิดจากสายพันธุ์เดลตาได้ การศึกษาในประเทศที่มีรายงานสายพันธุ์เดลตา แสดงให้เห็นว่า คนที่ได้รับวัคซีนแล้วมีแนวโน้มต่ำกว่ามากที่จะเข้าโรงพยาบาล และคุได้รับวัคซีนครบคอร์ส เพื่อให้ได้ภูมิคุ้มกันสายพันธุ์เดลตาเต็มที่ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือ หากสามารถเข้าถึงวัคซีนที่ทางองค์การอนามัยโลกอนุมัติใช้แล้ว ให้รีบฉีดวัคซีนและฉีดให้ครบคอร์ส เพื่อที่จะมีภูมิคุ้มกันสายพันธุ์เดลตา และสายพันธุ์อื่นๆ
สำหรับประเทศไทย มีวัคซีนที่ได้รับการรับรองและขึ้นทะเบียน ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ 3 ชนิดที่ให้บริการ ได้แก่ แอสตราเซเนกา ซิโนฟาร์ม และ ซิโนแวค
อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ที่การฉีดวัคซีนในประเทศไทยยังไม่ครอบคลุมในวงกว้าง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด มาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มข้น การลดปัจจัยเสี่ยงในการนำเชื้อไวรัสเข้ามาสู่ประเทศเพิ่มเติม จะเป็นทางออกควบคู่ไปกับมาตรการทางด้านสาธารณสุข ในการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างจริงจัง แม้ภายในบ้านเดียวกัน