คณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน หรือกกร.ซึ่งประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือส.อ.ท. และสมาคมธนาคารไทย มีมติปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 เป็นขยายตัวได้ในกรอบ 0.0% ถึง 1.5% จากเดิมคาดว่าจะเติบโตได้ราว 0.5% ถึง 2% ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมาตรการเพิ่มเติมของรัฐ
ทั้งนี้ กกร.มองว่า เศรษฐกิจไทยยังเผชิญความเสี่ยงค่อนข้างมากจากการระบาดระลอกใหม่ที่รวดเร็วและรุนแรง กระทบต่ออุปสงค์ในประเทศ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวชัดเจนขึ้นต่อเนื่องจะส่งผลดีต่อแนวโน้มส่งออกของไทยในระยะต่อไป
อีกด้านหนึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย ธปท. เปิดเผยรายงานคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือกนง.คณะกรรมการฯ ได้มีการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 64 โดยปรับลดประมาณการ GDP ลงมาอยู่ที่ 1.8% จากเดิม 3.0% รวมทั้งปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 65 ลงมาอยู่ที่ 3.9% จากเดิม 4.7% เนื่องจากเห็นว่าการระบาดของโควิดระลอก 3 มีความยืดเยื้อและรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับลดลง และอุปสงค์ในประเทศได้รับผลกระทบชัดเจน ภาคธุรกิจและตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้นและมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้า
ขณะที่นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อ้างข้อมูลจากฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ รายงานเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยังคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) สะท้อนภาพความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลก และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของไทย
คาดว่าในปี 2564 ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยจะยังคงเกินดุลที่ร้อยละ 0.5 ต่อจีดีพี และจะเกินดุลต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
นายอนุชา ระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของไทยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ฟิทช์เชื่อมั่นว่าน่าจะเริ่มฟื้นตัวเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกสินค้าและการเร่งรัดการเบิกจ่ายโครงการลงทุนของภาครัฐ อีกทั้ง คาดว่าเศรษฐกิจของไทยในปี 2565 จะขยายตัวที่ร้อยละ 4.2 เนื่องจากการขยายตัวของอุปสงค์ภายนอกประเทศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้ เมื่อการระบาดของโควิดคลี่คลาย เศรษฐกิจฟื้นตัวและรายได้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้นจะทำให้รัฐบาลจัดทำงบประมาณขาดดุลลดลง
แม้แนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจจะเติบโตถดถอย แต่เรายังคาดหวังมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงว่าจะเป็นตัวแปรให้เศรษฐกิจฟื้นตัว รวมทั้งแผนเปิดประเทศภายใน 120 วันที่จะเรียกความเชื่อมั่นของทุกฝ่าย