เสรี พงศ์พิศ
FB Seri Phongphit
“กินน้อยตายยาก กินมากตายไว” เป็นคำพังเพย คำสอน ภูมิปัญญาคนโบราณ ที่วันนี้วิทยาศาสตร์กำลังบอกว่า “ถูกต้องแล้ว” วิกฤติโควิดน่าจะเป็นโอกาสให้เราได้ปรับวิธีคิดเกี่ยกับการดำเนินชีวิต การกินการอยู่ เพื่อจะได้อายุยืนอย่างมีคุณภาพ ไม่ใช่อย่างทรมาน (ด้วยยาและสายยาง)
วันนี้มียาและวิธีการรักษาโรคต่างๆ เป็นโรคๆ ซึ่งมีมากมายหลายโรค หายโรคหนึ่งเป็นอีกโรคหนึ่ง ล้วนแต่ร้ายแรงและทำให้คุณภาพชีวิตเลวลง อย่างมะเร็ง เบาหวาน ความดัน เส้นเลือดตีบตัน อัมพฤกษ์อัมพาต อัลไซเมอร์ พาร์คินสัน โรคระบาดและโรคติดต่ออย่างเอดส์ ไข้หวัดใหญ่ โคโรนาไวรัสหลายสายพันธุ์ วัณโรค ฯลฯ
หลายสิบปีมานี้ วิทยาศาสตร์เริ่มคิดเป็น “องค์รวม” มากขึ้น คือ ไม่แยกส่วนอวัยวะ แยกส่วนโรค แยกสาเหตุของโรคเหมือนที่ผ่านมา มองเห็นความสัมพันธ์ของทุกส่วนของร่างกาย และหลายคนสรุปว่าสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคต่างๆ น่าจะมีที่มาเดียวกัน คือ โรคชรา แก้โรคนี้ได้ โรคอื่นๆ ก็ไม่เกิด
โรคชรามาจากความเสื่อมของเซลล์ ของยีน ขององค์ประกอบที่เป็น “หัวใจ” ของการ “ขับเคลื่อนชีวิต” ที่เรียกกันว่า mitochondria ซึ่งทำหน้าที่ผลิตพลังงานให้เซลล์
เพื่ออธิบายเรื่องนี้ด้วยภาษาที่อ่านเข้าใจได้ ขอละศัพท์แสงทางชีววิทยาที่ดูซับซ้อนและสับสนสำหรับคนทั่วไป (ภาษาไทยใช้ทับศัพท์ ต้องไปหาถามลุงกู เช่น gene, genome, dna, mitochondria, neucleus, sirtuins)
นับแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองมีการค้นพบเรื่องความเสื่อมของ “แบตเตอรี่ชีวิต” (mitochondria) แต่เพิ่งมีการพัฒนาทฤษฎีใหม่ที่อธิบายโรคชราและความเสื่อมของแบตเตอรีชีวิต เรียกว่า “ทฤษฎีการสื่อข้อมูล” ระหว่างส่วนประกอบในเซลล์ที่มี “ข้อมูลพันธุกรรม” ที่ต้องสื่อสารกัน
ข้อมูลพันธุกรรมในเซลล์ต่างๆ อยู่ได้นาน โดยเฉพาะถ้า “แช่แข็ง” อย่างที่ไซบีเรียที่พบดีเอ็นเอของแมมมอธ ช้างดึกดำบรรพ์ล้านปี แสดงว่า อายุของดีเอ็นเอน่าจะยืนยาวถ้าไม่เกิดความเสียหาย คนก็อายุยืนกว่าวันนี้ได้
ทฤษฎีชีวิตยืนยาวด้วยการสื่อสารข้อมูลระหว่างยีนที่มี “ข้อมูลชีวิต” พบว่า คนเราอายุมากขึ้น คลังข้อมูลที่เปรียบเหมือนแผ่นซีดีอาจมีรอยขีดข่วนสกปรกฝุ่นจับ ถ้าทำความสะอาดและลบรอยขีดข่วนได้ เราก็ดูหนังฟังเพลงจากแผ่นได้เหมือนเดิม ชีวิตก็เหมือนกัน
มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อนว่า มีวิธีการอะไรที่จะทำให้ “แผ่นซีดีชีวิต” ของเรากลับมาใสเหมือนเก่า เป็นหนุ่มเป็นสาวเหมือนเดิม สรุปว่า คือ การทำให้ยีนที่เคยสื่อสารกันดี กลับมาสื่อสารข้อมูลกันใหม่เหมือนเมื่อก่อนที่ยังแข็งแรง สุขภาพดี
ดร.เดวิด ซินแคลร์ หนึ่งในคนคิดทฤษฎีนี้เปรียบเทียบกับคนที่แต่งงานกัน แรกๆ ก็รักกันดี สื่อสารกันได้ไม่มีปัญหา นานๆ เข้าก็เริ่ม “พูดกันไม่รู้เรื่อง” เกิดปัญหา ความขัดแย้ง สื่อสารกันไม่ติด คนที่กลับมาเคลียร์ปัญหากันได้ก็จะกลับไปมีความสัมพันธ์ที่ดีได้
ประเด็นที่คนทั่วไปสนใจ คือ ทำอย่างไรจึงจะ “ทำความสะอาดซีดีชีวิต” ให้ได้ นักวิทยาศาสตร์สายนี้แนะนำหลายวิธี ที่สำคัญที่สุด คือ การกินอาหารให้น้อยลง การอดอาหารคนมักคิดว่าเป็นเรื่องไม่ดี แต่วันนี้พบคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ (ที่ได้รางวัลโนเบล) เรื่อง “การกินตัวเองของเซลล์” (autophagy)
หลักการที่ว่า คือการอดให้ร่างกายมีปฏิกิริยา “ป้องกันตัวเอง” (defense mechanism) จึง “จัดการตัวเอง” ผลิตพลังและจัดการกับสิ่งไม่ดีต่างๆ ในเซลล์ (คนโบราณบอกว่า พืชหลายชนิด ถ้าทำให้ขาดน้ำแล้วจะออกดอกออกผล ถ้าให้น้ำมากเกินไปก็ได้แต่ใบ บางคนเอามีดไปฟันต้นไม้เป็นแผล ปรากฏว่าออกผลดกดี สัตว์มากมายหลายชนิดอดอาหารหลายวัน หลายสัปดาห์และมีอายุยืน)
นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองทฤษฎีนี้กับหนู เห็นผลชัดเจนว่า หนูที่อดอาหารสุขภาพดีกว่า อายุยืนกว่าหนูที่กินอิ่มทุกวัน ที่เกิดโรค เป็นมะเร็ง หนูที่ได้รับสารเสริมเพิ่ม “แบตเตอรี่ชีวิต” วิ่งได้เร็วกว่า นานกว่าหนูที่ไม่ได้รับ มีการทดลองไปถึงการมองเห็น หนูที่มองไม่เห็นได้รับสารบำรุงพลังชีวิต ทำให้มองเห็น ขณะนี้กำลังทดลองกับคนที่เป็นต้อ
วันนี้มี “อาหารเสริม” หลายชนิดที่ออกมา “เสริม” พลังชีวิต คือ ทำให้ยีนสื่อสารกัน ทำให้คนกลับมาเป็นหนุ่มเป็นสาว อายุยืนอย่างมีคุณภาพ แต่ก็เป็นการ “เสริม” เพราะหลักๆ คือ วิถีการดำเนินชีวิต-ไลฟ์สไตล์โดยรวมมากกว่าที่ต้องใส่ใจและมีคุณภาพ การกิน การนอน การออกกำลังกาย การคลายเครียด
คนโอกินาวาที่ญี่ปุ่นมีอายุยืนยาวโดยเฉลี่ยสูงที่สุดในโลก เพราะกินผักมาก กินปลา และสิ่งแวดล้อมดี มีความสัมพันธ์กันดีระหว่างผู้คน เมื่อคนโอกินาวาอพยพไปอยู่ฮาวาย อายุสั้นลง เพราะวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป อาหารการกินที่มากโปรตีนเนื้อสัตว์ กินผักน้อย แป้งมาก อย่างแฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า สเต๊ก
การกินอาหารมากเกินไป กินบ่อยเกินไป ทำให้กลไกป้องกันตนเองของร่างกายไม่ทำงาน ไม่ผลิตพลังงานป้องกันตนเองขึ้นมา พลังงานเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้ชีวิตยืนยาวและเป็นหนุ่มเป็นสาว
อดอย่างไรจึงไม่ป่วย การกินอาหารมื้อเดียวอย่างพระป่า หรือพระบ้านหลายท่านปฏิบัติก็ดูท่านมีสุขภาพดี อายุยืน พระภิกษุฉันวันละสองมื้อ ท่านทำ IF (อดเพื่อสุขภาพเป็นระยะ) อยู่แล้ว แต่ก็ควรดูแลคุณภาพอาหารด้วย อาหารที่นำไปถวายพระที่ไม่ดีต่อสุขภาพก็มีมาก จนพระอาพาธไม่ต่างจากฆราวาส
อาหารไทยมีชื่อเสียงเพราะอร่อย ความอร่อยมาจากภูมิปัญญาคนไทยในการใช้เครื่องเทศและวิธีการปรุงอาหาร อันนี้ต่างหากที่จะสร้างภูมิคุ้มกันได้ยาวนานกว่าวัคซีน และทำให้อยู่ได้เกิน 120 ปีอย่างมีคุณภาพ