เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ดังอยู่เซ็งแซ่ หลังจากที่มีประกาศมาตรการคุมเข้มของศบค. ออกมาเมื่อกลางดึก เวลา ตี 1ของวันที่ 27มิ.ย.64 ที่ผ่านมา โจมตีว่ารัฐบาลใช้วิธี "ลักหลับ" ได้กลายเป็น ประเด็นที่ฝ่ายรัฐบาลพยายามอธิบายอย่างชัดเจนว่า ข้อประกาศของศบค.นั้นไม่ใช่การล็อคดาวน์ กรุงเทพฯ หรือปริมณฑล หากแต่เป็นการเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติตัวของบางกิจการ ตลอดจนการปิดแคมป์คนงานเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ดูเหมือนว่าตลอดห้วง 1-2 วันที่ผ่านมา ฝ่ายรัฐบาลเองต้องใช้ความพยายามในการชี้แจง และอธิบายอย่างหนัก ว่านี่ไม่ใช่ทั้งการประกาศล็อคดาวน์ หรือจงใจ "ลักหลับ"แอบกระทำการใดๆ ล่าสุด "วิษณุ เครืองาม" รองนายกฯ ชี้แจงว่าข้อประกาศของศบค. เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ถูกมองว่ากระทันหันเกินไป ว่า "ไม่ได้ลักหลับหรอก เขาก็เกริ่นให้รู้ โธ่ จะลักหลับอะไร ใครๆก็รุมด่ารัฐบาล อยู่ว่า แพลมออกมาจนพวกคนงานเขาหนีออกไปหมดแล้วตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน แล้ว" สถานการณ์ที่รัฐบาล โดยเฉพาะ "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำลังเผชิญหน้า ในเวลานี้ แน่นอนว่าย่อมเป็นประเด็นใหญ่ที่ว่าด้วยการเร่งบริหารจัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยิ่งเมื่อไวรัสโควิด ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ตั้งแต่ลูกจ้าง ไปจนถึงเจ้าของกิจการ ที่พากันอ่วมอรทัยกันถ้วนหน้า เพราะลำพัง แรงกดดันทางการเมือง จากบรรดาสารพัดม็อบเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นต้องยอมรับว่าเป็นแค่ "ละครหน้าม่าน" ที่ออกมาโหมโรงเรียกแขกเท่านั้น เพราะแกนนำที่อยู่เบื้องหลังทุกม็อบเองก็รู้ดีว่า นอกจากจะไล่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สำเร็จแล้ว ยังกลายเป็นว่า ผู้คนในสังคมยิ่งพากันเบื่อหน่ายการออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมรวมกลุ่มกันทางการเมือง ในพื้นที่สาธารณะ ในยามที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ยังรุนแรงต่อเนื่องกันเพื่ออะไร ? แต่การเคลื่อนไหวที่น่าจะมีผลกระทบ เกิดแรงกระแทกต่อรัฐบาลได้มากไปกว่าปมการเมือง คือการออกมาขยับ จาก "นักรบเสื้อกราวด์" ที่รับมือกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด ในฐานะคนทำงานตัวจริง ที่อยู่หน้างาน แบกรับทั้งความคาดหวัง ความเสี่ยงมากกว่าใคร ! ล่าสุด "ชมรมแพทย์ชนบท" ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านเพจเฟชบุค ถึงการบริหารจัดการวัคซีนด้วยการระบุถึงข้อเสนอว่า "วัคซีนต้องมีให้ฉีดเดือนละ 15 ล้านโดส ประเทศไทยจึงจะรอด" " วัคซิเนชั่นและวิคตอรี่ ที่นายกประยุทธ์ชูสองนิ้วนั้นเป็นตลกร้ายที่ห่างไกลความจริง ความสามารถในการฉีดวัคซีนของบุคลากรทางการแพทย์ทั้งรัฐและเอกชนรวมๆ แล้วไม่น้อยกว่า 5 แสนโดสต่อวัน เราทุกคนพร้อมลุยงานหนักสลับมาฉีดวัคซีนให้ได้ทุกวันไม่มีวันหยุด เพื่อให้ถึงเป้าที่ 15 ล้านโดสต่อเดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ แต่ปัญหาคือมีวัคซีนให้ฉีดน้อยเหลือเกิน" ปฏิกิริยาจากนักรบด่านหน้า ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ ไปจนถึงอสม. มดงานในระดับพื้นที่ในฐานะ "แนวหน้า" ที่อยู่ในสมรภูมิ อาจกลายเป็น "คลื่นลม" เป็นมรสุมลูกใหม่ที่มีอานุภาพทำให้รัฐบาลถูกกระทบไม่น้อย การออกมาของชมรมแพทย์ชนบท อาจเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ที่ไม่ต่างไปจาก ภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ใต้น้ำ และมีภาษีเหนือกว่าประเด็นทางการเมืองที่สาดเข้าใส่ บิ๊กตู่ หลายเท่านัก !