จากกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชนทั้งระบบภายใน 6 เดือนให้เป็นรูปธรรม โดยล่าสุดได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้และผู้ค้ำประกันกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.
แบ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีด้วยการลดดอกเบี้ยเหลือร้อยละ 0.01 ต่อปีสำหรับผู้กู้ที่ไม่เคยผิดนัด ลดเบี้ยปรับ 100 เปอร์เซ็นต์สำหรับผู้กู้ที่ชำระหนี้ปิดบัญชี ลดเบี้ยปรับร้อยละ 80 สำหรับผู้กู้ที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมด ลดเงินต้นร้อยละ5 สำหรับผู้กู้ที่ไม่เคยผิดนัดและชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียวและลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือร้อยละ 0.5 กรณีไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดซึ่งมาตรการนี้จะมีผลถึง 31 ธันวาคมปีนี้
สำหรับกรณีผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้ประจำปี 2563 และปี 2564 กยศ.จะชะลอการฟ้องคดีไปจนถึงวันที่ 31มีนาคม 2565 ยกเว้นคดีที่จะขาดอายุความปีนี้พร้อมงดการขายทอดตลาดส่วนกรณีถูกบังคับคดีจนถึงสิ้นปีนี้จะงดการขายทอดตลาดด้านผู้กู้ยืมเงินที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับการพักชำระหนี้เป็นเวลา 2 ปีถือเป็นผู้กู้ที่มีสถานะเปราะบางจะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันได้ยกเลิกกำหนดที่ให้มีผู้ค้ำประกันการชำระเงินคืนกองทุนในสัญญากู้ยืมเงินใหม่เริ่มปีการศึกษา 2564
เมื่อพิจารณาแล้ว มาตรการที่ออกมาเชื่อว่าสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของผู้กู้ได้ในระดับหนึ่ง และจะทำหู้กู้มีความสามารถในการปิดบัญชี หรือผ่อนชำระหนี้ได้ อีกทั้งยังมีเงินเหลือเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ในบางส่วนด้วย
กระนั้น เราเห็นว่า ปัญหาของผู้ค้ำประกันยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด แม้จะมีการยกเลิกในส่วนของการกู้ยืมในสัญญาใหม่เริ่มปีการศึกษา 2564 แต่ภาระของผู้ค้ำประกันในหนี้เก่าที่ผ่านมา ซึ่งเคยก่อให้เกิดปัญหา โดยเฉพาะบุคลากรครู ที่ค้ำประกันเงินกู้ให้กับนักเรียน นักศึกษานั้นยังเป็นภาระอยู่
ดังนั้นเมื่อรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีมีแนวิดที่จะแก้ไขปัญหาหนี้สินครูด้วยนั้น จึงน่าจะนำประเด็นดังกล่าวไปพิจารณาด้วยว่า จะแก้ไขปัญหาภาระค้ำประกันหนี้เก่าอย่างไร รวมทั้งหากพ้นช่วงวิกฤตการณ์โควิด -19 แล้ว ยังจำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกันอีกหรือไม่ หรือหากยังจำเป็นต้องมีอยู่จะมีรูปแบบใดที่จะสามารถป้องกันปัญหา หรือบรรเทาลดหย่อนการรับภาระหนี้แทนของผู้ค้ำประกันได้ โดยมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับผู้ค้ำประกันที่เสี่ยงต้องถูกยึดทรัพย์สิน หรือต้องตกเป็นบุคคลล้มละลายเพียงเพราะต้องการสนับสนุนให้เยาวชนมีการศึกษา