สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต) ท่านเขียนหนังสือไว้เมื่อ พ.ศ 2559 เรื่อง “ทำ
อย่างไร จะพูดได้เต็มปากว่า เรารักในหลวง” มีข้อแนะนำที่ดีมากสำหรับประชาชน ดังเช่นข้อความต่อไปนี้
“สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระคุณเปี่ยมล้น ดังได้ยกส่วนหนึ่งมาพรรณนา ประชาชนชาวไทย ในหมู่พวกของตน จึงได้ซาบซึ้งประจักษ์ใจและจงรักหนักแน่นตรึงตรา และในระดับสากล เมื่อมองกว้างออกไป ก็มีความภูมิใจ ที่องค์พระราชาของตน ทรงเป็นที่ชื่นชมยกย่องเชิดชูกว้างไกลในนานาประเทศ
ความมีใจจงรักซาบซึ้งเชิดชูบูชาพระคุณ ที่เป็นไปในมวลประชาภายในก็ดี ความภูมิใจต่อเสียงแสดงความชื่นชมนิยมนับถือจากสากล ที่รายล้อมข้างนอก ก็ดีเป็นความสุขความภาคภูมิใจซึ่งผ่อนเบาความโศกเศร้าลงไปได้บ้าง
แต่อย่างไรก็ดี ความชื่นใจ ความภูมิใจทั้งหมดนี้แม้จะเป็นคุณความดีที่มีค่าสูงก็รวมอยู่ในระดับของจิตใจ ในการปฏิบัติต่อพระคุณของสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คนไทยไม่ควรพอใจอยู่เพียงเท่านั้น แต่ควรก้าวต่อขึ้นไปให้ถึงขั้นของปัญญาและการกระทํา
ในขั้นของปัญญานั้น คือการที่จะรู้เข้าใจ ตระหนักในคุณค่า เหตุผล และความมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ของพระคุณความดีงามทั้งหลาย โดยสํานึกรู้ว่า พระราชกรณียกิจที่ได้ทรงบําเพ็ญทั้งหมดทั้งปวงนั้น ก็ด้วยทรงมุ่งหมายที่จะแก้ปัญหา ปลดเปลื้องทุกข์ภัยของประชาชน ให้พ้นจากความลําบากเดือดร้อน เช่นความยากไร้ขาดแคลน ให้มีอยู่มีกิน มีความสุข รวมแล้วก็คือเพื่อประโยชน์สุขของปวงชน ตามพระราชปณิธานที่เป็นหลักเป็นแกนนั่นเอง
จากปัญญา ที่รู้เข้าใจคุณค่า เหตุผล และความมุ่งหมาย แล้ว ก็ต่อขึ้นไปสู่ปัญญาที่จะได้ร่วมปฏิบัติจัดทําดําเนินการเพื่อให้เป็นไปจนลุถึงจุดหมาย กล่าวคือเมื่อรู้เข้าใจตระหนักในคุณค่าและความมุ่งหมาย
อย่างนี้แล้วก็มาร่วมจิตตั้งใจที่จะทํา ที่จะปฏิบัติในส่วนของตน อันจะออกผลรวมร่วมกัน ให้สัมฤทธิ์ผลสมความมุ่งหมายที่จะแก้ไขปัญหานั้นๆ ได้และสัมฤทธิ์ผลให้เกิดมีประโยชน์สุขเป็นจริงขึ้นมา
พระราชปณิธานเพื่อประโยชน์สุขของปวงประชาชาวสยามนั้น เป็นความมุ่งหมายรวมอันเป็นหลักใหญ่ หรือเป็นแกน ของการบําเพ็ญพระราชกรณียกิจโดยรวมทั่วทั้งหมดทั้งสิ้น
แต่พระราชกรณียกิจทั้งหลายนั้นแยกย่อยเป็นแต่ละงาน แต่ละรายการ กระจายออกไป ดังที่จัดตั้งเป็นโครงการพระราชดําริซึ่งมีมากมายทั่วประเทศ นับว่าเกินกว่า 4,000 โครงการ ปัญญาของประชาชนที่ตระหนักรู้ดังกล่าวนั้น จึงหมายถึงการที่ชุมชนนั้นๆ ถิ่นที่นั้นๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงการพระราชดํารินั้นๆ อันเป็นที่ซึ่งจะได้รับประโยชน์ตามความมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ของโครงการจะต้องตระหนักรู้จักเข้าใจเหตุผล คุณค่า ประโยชน์ ความมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ของ
โครงการนั้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับตนเอง และพึงร่วมทํางาน ทําหน้าที่และปฏิบัติการ ที่จะให้โครงการหรืองานนั้นสําเร็จผลตามวัตถุประสงค์ของโครงการพระราชดํารินั้น ที่เกี่ยวเนื่องกับตน จนกว่าจะสัมฤทธิ์ผลตามจุดหมายของโครงการ
จากนั้น อีกด้านหนึ่ง เพื่อให้การปฏิบัติจัดทําดําเนินการทั้งหลาย เป็นเรื่องของการทําได้ ทําเป็น ทําถูกต้อง เป็นจริง ผู้ที่ปฏิบัติก็ต้องมีคุณสมบัติอันให้พร้อมที่จะปฏิบัติได้และทําได้ดี ทําได้ถูกต้องด้วย
ประชาชนจึงควรสํารวจตรวจสอบพิจารณาและพัฒนาตนเองให้มีคุณสมบัติที่จะเป็นประชากรที่มีคุณภาพ ตั้งแต่มีกําลังความตั้งใจช่วยเหลือร่วมมือ กําลังความเพียรพยายาม กําลังความรู้ความสามารถ ที่พร้อมจะร่วมทํางาน ร่วมดูแล รักษา ร่วมใช้ร่วมได้ประโยชน์จากโครงการหรือกิจการงานนั้นๆ”