การสยายอำนาจของ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ "เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ" คนใหม่ป้ายแดง ดูจะยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐ มองการณ์ไกลชนิดที่เรียกว่า "ข้ามช็อตการเมือง" ไปแล้วหลายขุม !
เพราะอย่าลืมว่าเมื่อ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ "ผู้จัดการรัฐบาล" ส่งสัญญาณแรงชัดว่าเลือกแล้วที่จะให้ "มือขวา" อย่างร.อ.ธรรมนัส ลงมาลุยงานทางการเมืองในสนามเลือกตั้ง อย่างเต็มตัวด้วยมีเดิมพันอยู่ที่ "ชัยชนะ" ในการเลือกตั้งส.ส.ตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะต้องกวาดส.ส.เข้าสภาผู้แทนราษฎร มาให้ได้ 200 คน
รวมถึงภารกิจของร.อ.ธรรมนัส ยังรวมไปถึงการใช้คอนเนคชั่น "ประสานสิบทิศ" กับทุกพรรคการเมืองที่ประสงค์จะร่วม ขบวนรถไฟ "สายประยุทธ์ 3" ไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดิมที่อยู่ร่วมกันในวันนี้ ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ตลอดจน พรรคขนาดเล็ก หรือแม้แต่ "คู่แข่ง" อย่าง "พรรคเพื่อไทย" พรรคแกนนำฝ่ายค้านในเวลานี้ก็ตาม
นั่นหมายความว่า สูตรคณิตศาสตร์ทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ ในมือ "3ป." มีโอกาสที่จะแปรเปลี่ยนกลยุทธ์ ไปตามสถานการณ์เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายที่การได้กลับมาเป็น "พรรคแกนนำรัฐบาล" หลังการเลือกตั้ง รอบหน้า คือคำตอบเดียว !
อาการไม่พอใจจากพรรคก้าวไกล ที่จงใจ "กระแทก" พรรคเพื่อไทย กระทบไปถึง "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกฯ ในฐานะตัวจริงเสียงของของพรรคเพื่อไทย ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแรงปะทุมาจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคเพื่อไทย "ไม่เล่นตามเกม" ของพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะไม่แก้ในหมวดที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว ยังกลายเป็นว่า ทักษิณ ยังส่งสัญญาณสนับสนุนให้มีการแก้ไขรูปแบบการเลือกตั้งด้วยการใช้แบบบัตรสองใบ ที่เคยทำให้พรรคไทยรักไทย กวาดส.ส.เข้าสภาฯ จนกลายเป็นรัฐบาลพรรคเดียวมาแล้ว
ความสัมพันธ์ที่ขบเกลียวกันมาตลอดระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย จนมาถึงวันที่ปรากฎชัดเมื่อถึงวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อีกด้านหนึ่งเป็นเพราะมีการส่งสัญญาณมาก่อนหน้านี้แล้วว่าพรรคก้าวไกล จะถูกทำให้กลายเป็นพรรคไซต์เล็ก เหลือส.ส.เข้าสภาฯได้เพียงหยิบมือ ดูจะเข้าใกล้ความเป็นจริงมากนั้น
เมื่อทั้งการเสนอรูปแบบการเลือกตั้งส.ส.โดยใช้แบบบัตรสองใบ นั้น "เข้าทาง" พรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ มากกว่าแล้ว อีกทางหนึ่งยังต้องไม่ลืมว่า ก่อนหน้านี้เคยมีสูตรตั้งรัฐบาลที่ถูกจุดพลุขึ้นมาเพื่อ "เขย่า" ทั้งพรรคร่วมรัฐบาล ไปจนถึง พรรคก้าวไกลมาแล้ว
นั่นคือการจับมือกันระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย เพื่อตั้งรัฐบาล อีกทั้งยังเป็นการ "ลดอำนาจต่อรอง" จาก 2พรรคร่วมรัฐบาล คือพรรคประชาธิปัตย์กับ ภูมิใจไทยลงไปโดยปริยาย !
ยิ่งเมื่อท่าทีอ่อนโอนต่อเกมการเก้ไขรัฐบาล ของพรรคเพื่อไทย ที่ไปตามธงของพรรคพลังประชารัฐส่งสัญญาณมากเท่าใด ดูจะยิ่งเป็นความจงใจจากพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการ "เขย่าขวัญ" ทุกฝ่ายที่ประกาศตัวหรือมีท่าที ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม ให้ทบทวนถึง "อนาคตการเมือง"ในวันข้างหน้ามากขึ้นเท่านั้น !