คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือกกร. คงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 เป็นการขยายตัวในกรอบ 0.5% ถึง 2.0% ด้านการส่งออก กกร. คาดว่าจะขยายตัว 5.0% ถึง 7.0% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ในกรอบ 1.0% ถึง 1.2%
กกร.เห็นว่า เศรษฐกิจไทยยังต้องการแรงสนับสนุนจากทั้งนโยบายการเงินและการคลังเพิ่มเติม โดยเฉพาะเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้า เนื่องจากผู้ประกอบการในภาคท่องเที่ยวสะท้อนว่าผลกระทบจากการระบาดคราวนี้มีแนวโน้มรุนแรงมากกว่าทั้ง 2 ระลอกก่อนหน้า จากการแพร่ระบาดที่มีแนวโน้มยืดเยื้อและเข้ามาซ้ำเติมกิจกรรมทางธุรกิจให้แย่ลงต่อเนื่อง เช่นเดียวกับผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการค้าที่สะท้อนว่าได้รับผลกระทบมากกว่า 2 ระลอกก่อนหน้าจากกำลังซื้อที่ลดลง
พร้อมกันนี้ ยังได้เสนอแนะต่อภาครัฐใน 3 ในประเด็น คือ 1.เร่งฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายและบริหารจัดการมาตรการควบคุมโรคอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นยุทธศาสตร์ หากสำเร็จเชื่อว่าจะช่วยให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเกิดขึ้นได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ แทนที่จะเป็นไตรมาสที่ 1 ของปีหน้าตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์
2.เพิ่มมาตรการช่วยเหลือด้านกำลังซื้อภาคประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง ให้เข้ามาพยุงกำลังซื้อได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 โดยพิจารณาเพิ่มวงเงินสนับสนุนการใช้จ่ายจาก 3,000 บาท เป็น 6,000 บาท ซึ่งจะช่วยให้มีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจาก 9 หมื่นล้านบาท เป็น 1.8 แสนล้านบาท เมื่อรวมเม็ดเงินของประชาชนที่นำออกมาใช้จ่ายคู่กับเม็ดเงินจากโครงการคนละครึ่ง
3.พิจารณาแนวทางมาตรการยิ่งใช้ยิ่งได้ (E-voucher) ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นจะช่วยผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ให้ผู้บริโภคสามารถนำเงินที่ใช้จ่ายสำหรับซื้อสินค้าและบริการ มาใช้เพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้โดยตรง ซึ่งเชื่อว่าจะอำนวยความสะดวกและดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลอัดฉีดมาตรการช่วยเหลือประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่าน
โครงการเราชนะ สำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มที่มีแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง และโครงการ ม33 เรารักกัน ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้ ข้อมูลจากโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า มีมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในเศรษฐกิจแล้ว 297,314 ล้านบาท
ส่วนโครงการ คนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่จะเริ่มในวันที่ 14 มิ.ย.นี้นั้น จะช่วยให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้ดีขึ้น หากไม่สามารถปรับเพิ่มวงเงินโครงการคนละครึ่งได้ทันตามข้อเสนอของกกร.ในรอบนี้ โอกาสที่จะมีโครงการคนละครึ่งระยะที่4 ก็มีสูง เช่นเดียวกับมาตรการอื่นๆ หากศึกโควิดยังยืดเยื้อเช่นนี้