กลายเป็นประเด็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ขึ้นมาทันที เมื่อเวทีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ที่ผ่านไปแล้วสองวันสองคืน เมื่อเวทีนี้ทำท่าว่าจะกลายเป็น สังเวียนให้ "คนกันเอง" อย่าง "พรรคร่วมรัฐบาล" ทั้ง "พรรคภูมิใจไทย" และ "พรรคประชาธิปัตย์" พากันรุมถล่ม รัฐบาล เสมือนเป็นการ "เอาคืน" ผู้นำรัฐบาลอย่าง "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปโดยปริยาย ! ท่าทีจาก "ชาดา ไทยเศรษฐ์" เจ้าพ่อสะแกกรัง ส.ส.อุทัยธานี จากพรรคภูมิใจไทย ที่ลุกขึ้นอภิปรายการจัดสรรงบประมาณในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข พุ่งเป้าไปที่ สภาพัฒน์ ฯ แล้วกระแทกไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ ก่อนปิดท้ายตรงที่ชวน "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย "กลับบ้านเรา ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รักแล้ว" จากประโยคดังกล่าวทำให้เกิดคำถามและตีความกันไปไกลว่า หรือความอึดอัดคับข้องใจ ของพรรคภูมิใจไทยที่สะท้อนผ่าน ชาดา ส.ส.อุทัยธานี กลางสภาฯ ครั้งนี้ จะเกิด "เอฟเฟกซ์" อย่างใดอย่างตามมา ภายหลังจากเสร็จสิ้นการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ฯ กันไปแล้ว เช่นเดียวกับ ที่ขุนพลของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่ง กนก วงศ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ "ดร.บิล" อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ต่างมองว่าการจัดสรรงบประมาณ ประจำปี2565 นั้น "ไม่ตอบโจทย์" ทั้งต่อการแก้ไขปัญหาโควิด ไปจนถึงการช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์ใกล้ตาย แต่รัฐบาลกลับแก้ไขไม่ต่างจากแค่ "ทายาแดง" เท่านั้น แน่นอนว่า ความบาดหมางที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ ภายในพรรคร่วมรัฐบาล ได้เกิดขึ้นมาเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่ "จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์" รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องออกมาส่งเสียงแสดงความไม่พอใจ จากคำสั่งแต่งตั้งให้ "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงไปคุมพื้นที่ภาคใต้ จนพล.อ.ประยุทธ์ ต้อง "ยอมถอย"มาแล้ว แต่ความอึมครึมระหว่างพรรคภูมิใจไทย กับพล.อ.ประยุทธ์ ล่าสุดที่เพิ่งเกิดเหมือน "แผลสด" ที่ปะทุกันมาก่อนถึงวันเปิดสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ฯ ดำเนินกันมาอย่างต่อเนื่อง และทำท่าว่าจะบานปลายจนถึงขั้นที่ส.ส.สามารถโพสต์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ได้อย่างไม่ต้องเกรงใจ ขณะที่อนุทิน เองก็ตอบสื่อว่า ตอนที่เขาเคยโดนส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ ถล่มมาแล้ว ก็ยังไม่เคยออกมาพูดอะไรเลยด้วยซ้ำ ! ภาพที่เกิดขึ้น ในการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ฯ ที่ผ่านมาสองวันสองคืน จึงกลายเป็นเหมือนสมรภูมิ ให้สองพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยอาศัยห้วงเวลานี้ " เอาคืน" กันกลางสภาฯ อย่างที่เห็น อย่างไรก็ดี ใช่ว่า ภาพที่เห็นการเปิดศึกกลางสภาฯ ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองเช่นนี้ ใช่ว่าจะนำไปสู่บทสรุปสุดท้าย ว่า "ฝ่ายค้าน" จะได้เห็น การถอนตัวเกิดขึ้น เพราะทั้งพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย จะยังกอดคอกันไปอย่างนี้ ถูลู่ถูกังกันไปเช่นนี้อีกยาว !