การประกาศปรับแผนกระจายการฉีดวัคซีน ของ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19 ) หรือ ศบค. เมื่อวันที่ 26 พ.ค.64 ที่ผ่านมา ด้วยการสั่งให้ชะลอการลงทะเบียนจองคิวผ่านแอพลิเคชั่น "หมอพร้อม" เอาไว้ก่อน ส่วนการลงทะเบียนนั้นให้มีทางเลือกกับประชาชนที่หลากหลายขึ้น ยกตัวอย่าง จ.ภูเก็ต และ จ.นนทบุรี ที่มีแอปพลิเคชันและระบบของจังหวัด ส่วนแผนการแจกจ่ายวัคซีน ศบค.ได้แถลงว่า จากเดิมใช้เกณฑ์จัดสรรตามโควตาการจองของแต่ละจังหวัด จะปรับเกณฑ์เพิ่มเติม โดยให้พิจารณาจาก ยอดผู้ติดเชื้อ เกณฑ์การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม การท่องเที่ยว และกลุ่มบุคคลเสี่ยง แรงงาน ผู้ขับรถสาธารณะ รวมทั้งมหาวิทยาลัยที่ฉีดวัคซีนในกลุ่มเฉพาะ รองรับการเปิดภาคเรียน ซึ่งแผนการแจกจ่ายวัคซีนจะถูกปรับใหม่โดยใช้หลายเกณฑ์ เมื่อศบค.แถลงข่าวจบลงเมื่อวันที่ 26 พ.ค. ได้เกิดปฏิกริยาหลายอย่างตามมาทันที ! ทั้งจากฝ่ายค้าน ไปจนถึง "พรรคร่วมรัฐบาล"ด้วยกันเอง ที่ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาก่อนหน้านี้ เพราะต้องไม่ลืมว่า ส.ส.ในพื้นที่ ทั่วประเทศ ทุกจังหวัดคือคนที่ทำงานใกล้ชิดกับประชาชน และเห็นปัญหาในพื้นที่ ที่มีความแตกต่างกันไป ระหว่างกรุงเทพฯ กับต่างจังหวัด "สาธิต ปิตุเตชะ" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า "ไม่เห็นด้วย" เพราะการลงทะเบียนตามจังหวัดนั้นต้องคำนึงด้วยว่าแต่ละจังหวัดยังไม่มีแพลตฟอร์มที่รองรับ รวมทั้งยังมีกลุ่มบุคคลที่ยังไม่รู้ว่าจะไปลงทะเบียนที่ไหน นอกจากนี้สาธิต ยังตอบคำถามกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า การทำงานของศบค.และกระทรวงสาธารณสุขมีปัญหากันหรือไม่ โดยเขาเองยอมรับว่ามีส่วนร่วมน้อยมาก " ต้องพูดคุยเรื่องการลงทะเบียนให้ได้ข้อสรุปก่อนสื่อสารกับประชาชน ไม่ใช่เอาหลักๆ มาพูดแต่ให้คำตอบกับประชาชนไม่ได้และไม่มีความชัดเจนว่าจะทำอย่างไรให้เขาได้รับการฉีดวัคซีน" ขณะเดียวกัน ยังน่าสนใจว่า เกิดเอฟเฟกซ์จาก ส.ส. ในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง ทั้งจากพรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐที่เรียกร้องให้ ทั้งนายกรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข และศบค. ทบทวนการจัดลำดับการกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงตามจังหวัดต่างๆ เนื่องจาก " ส.ส.ทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน เราไม่ได้ต้องการวัคซีนเพื่อให้จังหวัดตัวเองได้มากที่สุด แต่ปัญหาคือวันนี้จะเอาวัคซีนที่ไหนมาให้คนที่ลงทะเบียน จึงต้องมาเรียกร้องศบค. และทราบว่านายกรัฐมนตรี รับรู้เรื่องท้วงติงของส.ส.แล้ว จึงให้ ศบค. ทบทวนรูปแบบการลงทะเบียนใหม่ และจัดการวัคซีนใหม่ ส.ส.ไม่นิ่งนอนใจที่จะดูแลประชาชนทุกเรื่อง วันนี้วัคซีนเป็นเรื่องของวาระแห่งชาติ จึงขอฝากนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ให้ทราบว่าเจตนาของฝ่ายนิติบัญญัติ เรารับฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ บทบาทของส.ส.เราต้องแสดงออกเพื่อให้วัคซีนกระจายไปทั่วถึงคนไทยทุกคน" ณัฏฐ์ชนนท์ ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ระบุกับสื่อ วันนี้ปัญหาของรัฐบาลนอกจากจะอยู่ที่ความชัดเจนในข้อมูลข่าวสาร ที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกันของคนในรัฐบาลเองแล้ว ควบคู่ไปกับการกระจายการฉีดวัคซีน ให้ทั่วถึง ครอบคลุมและรวดเร็วที่สุด ขณะที่วัคซีนอย่างแอสตร้าเซเนกา ยังต้องรอลุ้นว่าจะสามารถส่งมาถึงไทยได้ตามกำหนด ตามที่ "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกฯ และ รมว. สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า วัคซีนจะตามกำหนดสัญญาในเดือนมิ.ย.นี้อย่างแน่นอน สถานการณ์ที่รุมเร้ารอบตัวเช่นนี้ กำลังพันกันไปหมด ในระหว่างทางที่นายกฯ ประกาศเดินหน้าให้การฉีดวัคซีนเป็น "วาระแห่งชาติ" ยิ่งเมื่อ "การเมือง"ในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง ก็กลับมาปะทุในจังหวะนี้ ยิ่งทำให้นายกฯ มีแต่ต้องกุมขมับ !