เสือตัวที่ 6 ความเชื่อตามคำสอนทุกศาสนาล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่น้อมนำให้ผู้ที่มีความเชื่อมั่นศรัทธาในหลักคำสอนทางศาสนาเหล่านั้นเป็นคนดี เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นคนเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ หากแต่ถ้าความศรัทธาเชื่อมั่นเหล่านั้น ถูกบิดเบือนให้เข้าใจไปในทำนองว่า กลุ่มของตน เป็นกลุ่มคนที่เป็นคนดี คนบริสุทธิ์มากกว่าคนกลุ่มอื่นๆ ที่มีความเชื่อ ความศรัทธาในแนวทางศาสนาอื่นๆ ยิ่งถ้าเป็นคนที่เคร่งครัดในหลักคำสอนทางศาสนานั้นๆ มากเท่าใด ย่อมมีโอกาสสูงที่สิ่งเหล่านั้น จะถูกโน้มนำซึ่งความเชื่อสุดโต่งที่ว่า กลุ่มของตนมีความเหนือกว่าคนกลุ่มอื่นที่ไม่ได้เชื่อถือตามแนวทางที่ตนศรัทธา ทั้งยังมีความเป็นไปได้สูงว่า คนกลุ่มที่เชื่อมั่นศรัทธาตามหลักคำสอนอื่นๆ เหล่านั้น เป็นคนบาป และสมควรถูกทำลาย ด้วยกระแสของความเชื่อทางศาสนาบางศาสนา มีการออกแบบให้ทวนกระแสความต้องการของมนุษย์ทั่วไป เพื่อให้เกิดความรู้สึกรับรู้ว่า มีความเหนือกว่าคนกลุ่มความเชื่ออื่นโดยไม่รู้ตัว อาทิ สอนให้มอบความเมตตาต่อทุกสรรพสิ่งในสากลจักรวาล สอนให้ดูแลครอบครัวให้พ้นภัยจากไฟนรก สอนให้สู่ขอสตรีเป็นภรรยา มิให้อยู่ด้วยกันก่อน หรืออยู่เพื่อศึกษาดูก่อน หรือเป็นแฟนกันก่อน โดยมิได้แต่งงาน สอนให้ปกปิดอวัยวะที่จะก่อให้เกิดอารมณ์แก่ผู้คนที่มีตัณหา ราคะทั้งหลาย สอนมิให้แปลงเพศ ศัลยกรรมร่างกาย เชื่อว่าธรรมชาติให้มาว่าชายคือชาย หญิงคือหญิง และต่อต้านการแต่งงานเพศเดียวกัน สอนให้ดูแลคุ้มครองเพศสตรี มิให้เสียเกียรติและศักดิ์ศรีในความเป็นผู้หญิง ไม่ว่าจะนำสตรีมาประกวดความสวยงามของหน้าตาและเรือนร่าง โชว์แฟชั่นยั่วยุกามารมณ์ หรือนำผู้หญิงมาเป็นของบำเรอผู้ชาย สอนให้แบ่งปัน ดูแล ช่วยเหลือเด็กกำพร้า คนยากจน และอนาถา สอนให้ช่วยเหลือครอบครัวคนต่างศาสนิกที่เสียชีวิตให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สอนให้เข้าหาพระเจ้า เพื่อสร้างวินัยแก่ตนเองและรำลึกถึงพระเจ้าตลอดเวลา สอนให้ถืออด ในเดือนที่กำหนด เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งทางจิตใจ และรำลึกถึงความลำบากของคนยากจน คนอนาถาที่อดอยาก ยากไร้ สอนให้เคารพให้เกียรติศพ ไม่ทำลาย ศพ ไม่เผาศพ ไม่ว่าศพนั้นจะนับถือศาสนาใดๆ ก็ตาม สอนให้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดๆ หากประสบกับความเดือดร้อน เกิดวิกฤติภัยพิบัติต่างๆ สอนให้เป็นมือบน เป็นผู้ให้ เสียสละ มิให้มีความโลภ โกรธ หลง กอบโกย เห็นแก่ตัว สอนมิให้ทะนงตัว โอหัง อิจฉาริษยา ลืมตัวตน ลุแก่อำนาจ ออกห่างพระเจ้า สอนให้รักษาความเป็นธรรมไม่เลือกปฏิบัติต่อบุคคลที่มีความแตกต่างระหว่างกัน สอนให้เหินห่าง รังเกียจเหล้า เบียร์ บุหรี่ ยาเสพติดและสิ่งมึนเมาทั้งหลาย สอนให้ปฏิเสธแนวคิด "ดอกเบี้ย" ซึ่งเป็นการเอารัดเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน สอนมิให้โกงตาชั่ง ทุจริต คอรัปชั่น ฉ้อราษฎรบังหลวงหรือเรียกร้องเงื่อนไขใดๆ สอนให้ดำเนินธุรกิจภายใต้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มิใช่แสวงหาผลกำไรเป็นที่ตั้ง สอนมิให้งมงาย อุปโลกน์ความเชื่อ คาดหวังกับสิ่งที่เสี่ยงทายเสี่ยงโชค การพนัน และของขลังต่างๆ สอนมิให้งมงาย จินตนาการกับวัตถุสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้เหตุผลไร้สาระ ไร้ความเป็นจริง สอนไม่ให้ก้มกราบมนุษย์ด้วยกัน เพื่อรักษาเกียรติ ศักดิ์ศรี สร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกันในความเป็นมนุษย์ด้วยกัน สอนให้มนุษย์รักใคร่ ปรองดอง สมานฉันท์ ทำความรู้จัก สานไมตรีที่ดีต่อกัน สอนให้ยอมรับในความเป็นพี่น้องกันในฐานะมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน สอนให้มีความกตัญญูต่อบิดา มารดา และผู้มีพระคุณทั้งหลาย สอนมิให้แบ่งชนชั้น วรรณะ เกียรติ ศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์ด้วยกัน ทุกคนเท่าเทียมกันต่อหน้าพระเจ้า สอนให้เหินห่างสิ่งอบายมุขทั้งมวล ไม่ว่าจะถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม สอนให้ต่อสู้กับสิ่งมดเท็จ โกหก หลอกลวงเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน สอนไม่ให้มนุษย์ต่อสู้ เพื่อการล่าอาณานิคม เพื่อชาติพันธุ์ วงศ์ตระกูลและภาษา เพื่อขยายดินแดน แยกดินแดน หรือเพื่อสู่ตำแหน่ง อำนาจ ผลประโยชน์ สอนให้ต่อสู้ ภายใต้สงครามสันติภาพ กำหนดเงื่อนไขการต่อสู้ว่า ห้ามฆ่าเด็ก ผู้หญิง คนชรา ผู้หมดทางสู้ ผู้ยอมแพ้ เชลยศึก ห้ามทำลายศาสนสถาน บ้านเรือน สิ่งเพาะปลูก สิ่งเพาะปลูกใดๆ ห้ามทำลายศพ ดูแลเชลยด้วยความรักและความเมตตา ให้โอกาสเชลยไถ่ตัวเองเป็นอิสระ สอนให้มนุษย์ยอมรับมติส่วนรวมในกระบวนการประชาธิปไตย สอนให้มนุษย์ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ โดยการตักเตือน ชี้แนะ ชักชวนให้กลับมาสู่สัจธรรมแห่งพระเจ้าที่แท้จริง โดยปราศจากการบังคับในการนับถือศาสนา คำสอนของศาสนาดังตัวอย่างข้างต้นนั้น หากมองอย่างใจที่เป็นธรรม ไม่มีอคติ มองตามเนื้อหาสาระ จะเห็นได้ว่า เป็นคำสอนที่ประสงค์ให้ศาสนิกทางศาสนาเหล่านั้นคิดดี คิดชอบ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นแนวทางให้คนในหลักการนั้น เป็นผู้ให้ รู้จักเสียสละ มีความเป็นธรรมไม่เอารัดเอาเปรียบ มีความเข้มแข็งทางจิตใจในการอดทนต่อความหิวกระหาย ในห้วงเวลาที่กำหนด รักเพื่อนมนุษย์แม้จะมีความเชื่อถือศรัทธาต่างกัน ให้มนุษย์ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ โดยปราศจากการบังคับในการนับถือศาสนา ให้เกียรติ ศักดิ์ศรี สร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกันในความเป็นมนุษย์ด้วยกัน ไม่ดูแคลน ไม่ดูถูกเหยียดหลามผู้ต่างศาสนิกหรือต่างความเชื่อของกลุ่มตน หรือแม้ว่าจะต้องต่อสู้ในสงคราม ก็จะทำเพื่อการดำรงอยู่ของกลุ่มตนที่จะมีโอกาสในการปฏิบัติศาสนกิจตามหลักความเชื่อของกลุ่มตน เพื่อความเป็นธรรม ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อความสนองตอบความโกรธแค้นชิงชังคนกลุ่มต่างความเชื่อ การต่อสู้จะต้องทำภายใต้สงครามสันติภาพ กำหนดเงื่อนไข ห้ามฆ่าเด็ก ผู้หญิง คนชรา และผู้หมดทางสู้ รวมทั้งการห้ามทำลายศพ ที่สำคัญคือ การต่อสู้นั้น จะไม่ใช่เพื่อการล่าอาณานิคม เพื่อชาติพันธุ์ เพื่อขยายดินแดน แยกดินแดน หรืออำนาจ ผลประโยชน์ เหล่านี้ คือคำสอนทางศาสนาที่เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า มุ่งหวังให้ศาสนิกทางศาสนานั้น คิดดี คิดชอบ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ รักเพื่อนมนุษย์ และไม่ต่อสู้เพื่อแยกดินแดน หากแต่แกนนำกลุ่มหนึ่ง ได้ใช้ความเหนือชั้นทางสติปัญญา หลอกล่อผู้คนในท้องถิ่น ให้เข้าใจเฉไฉไปในทิศทางที่ตนเองต้องการ ในการต่อสู้กับรัฐผู้ปกครองอย่างแยบยลยิ่ง อีกทั้งหลายๆ แนวทางคำสอนที่ถูกตีความไปในทำนองว่า กลุ่มของตนนั้น เป็นกลุ่มคนที่บริสุทธิ์ ด้วยมีความเคร่งครัดในคำสอนตามแนวทางดังกล่าว และชี้นำไปว่า กลุ่มของตนมีความเหนือกว่าคนต่างความเชื่อ ซึ่งเป็นคนบาป ไม่คู่ควรกับการอยู่ร่วมกับพวกตน อันจะเป็นการง่ายต่อการสั่งสมบ่มเพาะให้เป้าหมายของการปลุกระดม มีความคิดสุดโต่ง แสวงหาทางออกของความคิดต่างเหล่านั้นด้วยความรุนแรง ในทรรศนะของนักวิชาการที่คว่ำหวอดกับไฟใต้หลายๆ ท่าน จึงมองไปในทำนองเดียวกันว่า การลดพลังทางประวัติศาสตร์เชิงบาดแผล ที่ขับเคลื่อนความเข้มข้นทางชาติพันธุ์ชาตินิยมมลายู-ปาตานี พร้อมๆกับการต่อสู้ทางความคิด ด้วยการนำความจริงทางศาสนาเข้าสู่มวลชนทุกระดับ ที่ไม่ได้มุ่งให้เกิดความเกลียดชังกับคนต่างความเชื่อ และไม่ได้มุ่งให้เกิดการหลงดีว่ากลุ่มตน เหนือกว่าคนกลุ่มอื่น จึงเป็นทางออกของการแก้ปัญหาในกลุ่มที่จับอาวุธและมวลชนแนวร่วมที่สนับสนุนการต่อสู้ด้วยความรุนแรงเป็นสำคัญ ควบคู่กับการพัฒนาในทุกมิติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องใน จชต. ไปพร้อมๆกัน