ดร.วิชัย พยัคฆโส
[email protected]
ช่วงเวลานี้คงไม่มีข่าวอะไรนอกเหนือจากโควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนักในบ้านเรา ติดเชื้อติดต่อกันหลายวันจากน้อยไปหามาก จนถึงวันนี้วันละกว่า 2 พันคน ทำให้มีปัญหาการหาสถานพยาบาลต้องรอนานหลายวัน
จำเป็นอยู่เองคงไม่พ้นความรับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลที่ต้องจัดหาเตียงสำหรับผู้ป่วยใหม่เพิ่มเติม มีปัญหาแม้กระทั่งรถที่จะไปรับคนมาเข้าโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนามและ HOSPITEL ซึ่งต้องเร่งจัดหากันทุกวัน หากยังไม่หยุดแพร่เชื้อหรือรัฐบาลเอาไม่อยู่คงต้องอยู่กับบ้านรักษาตัวเองให้รอด
เรื่องยาฟาร์วิพิราเวียร์หมดไปเพราะสั่งซื้อจากญี่ปุ่นเข้ามาแล้ว 2 ล้านเม็ด และจะสั่งเข้ามาสำรองไว้อีก วัคซีนคงไม่ห่วงแล้วเพราะรัฐบาลเตรียมสั่งมาเพิ่มเติม และจะกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง ถือเป็นวาระด่วนของรัฐบาลที่ได้แสวงหาความร่วมมือจากภาคเอกชน
1.จัดหาวัคซีนเพิ่มเติมเป้าหมาย 10-15 ล้านโดส/เดือน
2.ร่วมทำงานกับภาคเอกชนเพื่อฉีดวัคซีนเชิงรุก
3.จัดศูนย์ฉีดวัคซีนทางเลือก เช่น ศูนย์การประชุม ศูนย์กีฬา และโรงแรม ฯลฯ
4.ฉีดวัคซีนให้ได้ 300,000 โดส/วัน โดยมีเป้าหมาย 50 ล้านคนภายในสิ้นปี 2564
นั่นคือเป้าหมายของรัฐบาลที่จะนำไปหารือกับภาคเอกชนที่เป็น CEO 45 รายในวันที่ 28 เม.ย. นี้ คาดว่าน่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะจะทำให้การระบาดน้อยลง
คาดว่า พ.ร.บ.งบประมาณ 2565 จะเข้าสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาในเดือนนี้ โดยมีงบประมาณที่จัดไว้น้อยกว่าปี 2564 รวม 1.85 ล้านล้านบาท โดยจะจัดสรรงบประมาณจำนวน 3.1 ล้านล้านบาทให้แก่ กระทรวงและหน่วยรับงบประมาณทั่วประเทศซึ่งมีงบกลางมากกว่าปีที่แล้วถึง 43,568,919,700 ล้านบาท ถึงกับฝ่ายค้านหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาอภิปรายว่าทำไมจึงมากกว่าเดิม
นอกเหนือจากนี้งบประมาณของกระทรวงกลาโหมในการจัดซื้อยุทธโธปกรณ์น่าจะปรับลดลง โอนไปช่วยงานสาธารณสุขให้เต็มที่ก่อนแล้วจึงมาจัดให้ภายหลัง ยังไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรีจะตอบอย่างไรและจะสามารถนำมาใช้ได้เพียงใด เพราะข่าวว่าจะยุบสภาหนีปัญหาโควิดในเดือน พ.ย.นี้
รัฐบาลได้เอาจริงกับผู้ไม่สวมหน้ากากเมื่อออกจากบ้านหรืออยู่ในรถยนต์ร่วมกับคนอื่น ปรับกันแพงหูฉี่ ซึ่งกำลังจะร่างมาตรฐานออกมาในเรื่องนี้เพราะปรับ-จับกันทั่วประเทศ ถือเป็นมาตรการที่เข้มข้น
การประชุมสุดยอดอาเซียน 10 ประเทศ ที่อินโดนีเซียเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีฉันทามติให้รัฐบาลเมียนมาปฏิบัติ 5 ข้อ เช่น หยุดยิงประชาชนทันที โดยจะมีผู้แทนจากอาเซียนมาร่วมเจรจาให้ได้ความยุติโดยเร็ว เป็นต้น
แต่ถึงอย่างไรพลเอกมิน อ่องหล่าย ทำเป็นหูทวนลม เพราะยังมีการยิงประชาชนที่คัดค้านต่อไป และเมื่อใดจึงจะสงบสุข ลองดูอีกสักพักว่าฉันทามติที่ร่วมกันหารือไว้จะเกิดผลเพียงใด