มิได้คิดคัดค้านยุทธศาสตร์ “ประเทศไทย 4.0” ของรัฐบาลนี้ แม้แต่น้อย เพียงแต่ดูจากปรากฏการณ์แล้ว รู้สึกว่างานรูปธรรมของหน่วยราชการตามยุทธศาสตร์นี้ มันออกมาทำนองว่า ประเทศไทย 4.0 คือทำให้อะไร ๆ เปลี่ยนไปใช้ระบบดิจิตอล Digitalization เท่านั้น แก่นแท้ทางความคิดนั้นยังไม่เป็นที่เผยแพร่กันนัก "Thailand 4.0" ประกอบด้วย 2 แนวคิดสำคัญ 1. "Strength from Within" คือการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน 2. "Connect to the World" เมื่อภายในเข้มแข็งแล้วเราก็ต้องเชื่อมโยงเศรษฐกิจภายในกับเศรษฐกิจโลก การสร้างความเข้มแข็งจากภายในนั้น มีกลไกในการขับเคลื่อนหลักอยู่ 3 ตัว คือ • การยกระดับนวัตกรรม (Innovation Driven Proposition) ของทุกภาคส่วนในประเทศ • การสร้างสังคมที่มีจิตวิญาณของความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneur Driven Proposition) • การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและเครือข่าย (Community Driven Proposition) ซึ่งทั้ง 3 กลไกนี้ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมๆกัน การยกระดับนวัตกรรม ก็เห็นมีการจัดกิจกรรมเผยแพร่แนวคิด มีการสนับสนุน ให้ทุนให้รอนทางด้านการศึกษาเพื่อขยายสร้างนวัตกรรมกันบ่อย ๆ แต่จะเกิดนวัตกรรมจริง ๆ แล้วถูกภาคธุรกิจนำมาใช้จริง ๆ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย เพราะนวัตกรรมใหม่ ๆ นั้น จะถูกนำมาใช้จริง สังคมไทยองค์รวมต้องมี “จิตวิญญาณของผู้ประกอบการ” ทุกวันนี้ถ้ามองสังคมโดยองค์รวมแล้ว อยู่ในระดับ “วินมอเตอร์ไซค์” เท่านั้น คือต้องมีระบบอิทธิพลมาอุปถัมป์ ยังห่างจาก Smart Enterprise ที่มีโมเดลการทำธุรกิจแบบใหม่ๆ อีกไกลนัก ยิ่งมองปัจจัยที่สาม คือการสร้างความเข้มแข็งในระดับฐานรากหรือชุมชนด้วยแล้ว ยิ่งรู้สึกห่อเหี่ยว ตามยุทธศาสตร์ ไทย 4.0 จำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งในระดับฐานรากหรือชุมชน และผนวก ความเข้มแข็งในระดับฐานรากกับการสร้างสังคมที่มีจิตวิญญาณผู้ประกอบการ เพื่อก่อให้เกิดการขยับปรับเปลี่ยนสถานะของผู้คนในสังคม (Social Mobility) ผ่านการสร้างสังคมแห่งโอกาส (Society with Opportunity) ควบคู่ไปกับการสร้างสังคมที่สามารถ (Society with Competence) เศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศเกิดความเข้มแข็ง แต่การทำงานของข้าราชการไทยมักจะกลายเป็นสร้างความอ่อนแอของชุมชนฐานราก คือลิดรอนทั้งสิทธิและโอกาสของชุมชนฐานราก เช่น เสียงของชุมชนที่คัดค้านการไม่ให้โรงงานอุตสาหกรรมเช่าป่าสาธารณะของชุมชน , เสียงของชุมชนที่คัดค้านการสร้างโรงงานที่จะก่อมลพิษ ฯลฯ จะถูกทำให้สลายหายไป ดั่งกรณีห้วยป่าเม็ก จังหวัดขอนแก่น เป็นต้น หากรัฐบาลไม่สามารถปรับแก้พฤติกรรมของระบบราชการไทยแล้ว ประเทศไทยคงจะเคลื่อนก้าวหน้าไปหา ยุค 4.0 ช้า ๆ อย่างหอยทาก.