ระยะนี้ ไซโคลน , มรสุม , พายุโซนร้อน กระหน่ำโลกจนเกิดวาตภัย-อุทกภัย หนักหนาสาหัสกันทั่วโลก สมัยก่อนนั้นเขาเรียก “ภัยธรรมชาติ” แต่เดี๋ยวนี้ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยอมรับแล้วว่า สาเหตุที่ทำให้ธรรมชาติมันวิปริตมากมายกว่าแต่ก่อน ก็เพราะ “คน”
เมื่อเกิดฝนตกหนักทั่วประเทศ ตามชนบท ดินถล่ม น้ำป่าหลากท่วมหมู่บ้าน ในตัวจังหวัด น้ำก็ท่วมถนนท่วมบ้าน สมัยโบราณ ฝนก็ตกหนักอย่างนี้แหละ แต่มีป่าไม้ซับน้ำไว้ ชุมชนเมืองก็มีทางน้ำรองรับพอเพียง บ้านเรือนก็มีเสาสูง รับมือกับน้ำท่วมได้
แต่สมัยนี้ คนเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมเหล่านั้นไปหมดสิ้นแล้ว พิษภัยต่าง ๆ ที่โถมทับเข้ามานั้น เกิดจาก “คน” นั่นเอง ทะเลระยองวายวอดไปเพราะคนปล่อยให้เกิดอุบัติเหตุน้ำมันรั่วจำนวนมหาศาล
ม.ร.ว คึกฤทธิ์ ปราโมช สรุปว่า “คนนั้นเป็นภัยต่อตัวเอง” ท่านเขียนไว้ว่า
“แต่คนนั้นเป็นภัยต่อตัวเอง มีนักวิทยาศาสตร์บางคนเขาเปรียบมนุษย์ไว้ว่า เหมือนกับหนอนในแป้ง เพราะหนอนในแป้งนั้น เมื่อเป็นตัวขึ้นมาก็กินแป้ง แล้วก็ปล่อยพิษออกมาในแงรอบตัว เมื่อกินแป้งนั้นเข้าไปอีก หนอนก็ตาย มนุษย์ก็เป็นแบบนั้น
เพราะมนุษย์อยู่ที่ไหนก็ทำลายสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติที่จำเป็นสำหรับตนลงไปจนหมดสิ้น
แล้วก็ปล่อยพิษออกมารอบตัว
ด้วยการทำให้อากาศที่ต้องหายใจนั้นสกปรกเต็มไปด้วยควันไฟและแก๊สมีพิษต่าง ๆ
ทำให้พื้นที่รอบตัวนั้นแห้งแล้งสกปรก ไม่มีพืชอันใดงอกงามได้
และทำให้แม่น้ำลำคลองสกปรก น้ำเป็นพิษกินเข้าไปแล้วป่วยหรือตาย
ต้นไม้และพืชต่าง ๆ อากาศอันบริสุทธิ์ และน้ำที่สะอาดปราศจากของมีพิษนั้นเป็นสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติที่จำเป็นสำหรับมนุษย์
มนุษย์ต้องการอยู่เสมอ แต่มนุษย์ก็ทำลายมันลงไปด้วยมือตนเอง ดูตัวอย่างคนที่อยู่ในกรุงเทพทุกวันนี้....คนที่อยู่ในเมืองใหญ่ ๆ จึงมีจิตใจ อากัปกิริยา และความประพฤติเปลี่ยนแปลงไป เพราะเมืองใหญ่ ๆ ก็คือสวนสัตว์ขังมนุษย์ กรุงเทพนั้นคือเขาดินทั้งเมือง เต็มไปด้วยสัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์ซึ่งมีจิตใจ อากัปกิริยา และความประพฤติที่แตกต่างไปจากมนุษย์ที่ยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ
ความเมตตากรุณา ความอ่อนโยนเผื่อแผ่หมดไป
แม้แต่ความรักลูกเมีย ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูง ก็เริ่มจะหมดไป คงเหลือแต่ความรักตัวเอง
ความอยากดีก็หมดไป เหลือแต่ความอยากดัง ที่โจรผู้ร้ายและความคดโกงทุจริตมีมากขึ้นทุกทีก็ดูเหมือนจะเป็นเพราะเหตุนี้
ถ้าจะแก้ในทางวัตถุก็เห็นจะต้องทำให้สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติที่จำเป็นมีมากขึ้น
คือทำให้ที่ว่างสำหรับหายใจมีมากขึ้น ทำให้ต้นไม้และของเขียวมีมากขึ้น ทำให้อากาศมีมากขึ้น ทำให้แม่น้ำลำคลองสะอาดขึ้น
ในทางใจก็เห็นจะต้องแก้ให้ธรรมมีมากขึ้นในใจคนทั้งปวง” (ตึกฤทธิ์ ปราโมช)
การช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติมีผลดีมาก เพราะจะส่งผลให้เกิดธรรมในใจของมนุษย์เรา แต่ “ทุนนิยม” เป็นศัตรูกับธรรมชาติเสมอ เมื่อมนุษย์คลั่งไคล้ทุนนิยม ธรรมชาติก็จะพินาศ และแล้วมนุษย์เองก็จะดับสูญไปอย่างทุกข์ทรมาน