คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนเปิดประเทศตามที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) เสนอแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของจังหวัดภูเก็ตเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจและคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาอนุมัติให้มีการผ่อนคลายมาตรการกักตัวและเดินทางเข้าประเทศไทยโดยแบ่งเป็น4ระยะประกอบด้วย ระยะที่ 1 เริ่ม 1 เม.ย. นี้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ตกระบี่พังงาพัทยาเชียงใหม่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนและมีใบรับรองการฉีดวัคซีน(vaccine certificate) จะถูกกักตัว 7 วันภายในโรงแรมก่อนที่จะออกจากโรงแรมซึ่งเป็นระยะเวลาที่ลดลงจากการกักตัวปกติที่กำหนดไว้ 14 วัน ระยะที่ 2 เริ่ม 1 ก.ค. เป็นต้นไปเฉพาะในส่วนของจังหวัดภูเก็ตสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับวัคซีน 2โดสหรือตามจำนวนที่กำหนดไม่จำเป็นต้องกักตัวแต่สำหรับพื้นที่อื่นๆยังคงต้องใช้เวลากักตัว 7 วัน ระยะที่ 3 เริ่ม 1 ต.ค. เป็นต้นไปเฉพาะพื้นที่นำร่องเช่นภูเก็ตพังงากระบี่พัทยาและเชียงใหม่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่จำเป็นต้องกักตัวอีกต่อไปหากมีการฉีดวัคซีนและมีใบรับรองการฉีดวัคซีน ระยะที่ 4 เริ่ม 1 ม.ค. 2565 เป็นต้นไปนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไม่จำเป็นต้องกักตัวหากมีใบรับรองการฉีดวัคซีน อย่างไรก็ตาม ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 คาดการณ์ตัวเลขเงินสะพัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 112,867.43 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 63.6 ต่ำสุดในรอบ 9 ปี แม้เทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้น 63 % เนื่องจากปีก่อน เป็นปีที่ไทยงดจัดกิจกรรมสงกรานต์ทั้งหมดจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่ถ้าเทียบกับปี 2562 ที่มีสถานการณ์ปกติ การใช้จ่ายติดลบ 16.9% ทว่าในการสำรวจได้สอบถามถึงความเชื่อมั่นการป้องกันการแพร่ระบาดจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ผู้ตอบส่วนใหญ่ 42.8%มั่นใจปานกลาง อีก 32.1 บอกไม่มั่นใจเลยถึงมั่นใจน้อยมาก และอีก 25.1 บอกมั่นใจมากถึงมากที่สุด ส่วนความเห็นต่อการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในไทย ผู้ตอบส่วนใหญ่ 68.6% บอกไม่เห็นด้วย เพราะสถานการณ์การติดเชื้อยังไม่แน่นอน คนไทยยังไม่ได้ฉีดวัคซีน อาจก่อให้เกิดการระบาดรอบใหม่ แต่อีก 31.4% เห็นด้วย เพราะสร้างรายได้ให้กับประเทศ ช่วยภาคบริการท่องเที่ยวฟื้นตัว และสร้างบรรยากาศทางเศรษฐกิจ ส่วนทิศทางเศรษฐกิจขณะนี้ว่า มาตรการของรัฐยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ และคาดหวังว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งเดิมศูนย์ฯ ประเมินจะมีเม็ดเงินสะพัดช่วงสงกรานต์ปี 64 ประมาณ 140,000 ล้านบาท แต่ผลสำรวจพบ เงินหายไป 25,000-30,000 ล้านบาท ทำให้บรรยากาศเศรษฐกิจยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัว และประชาชนมองว่า เศรษฐกิจปี 64 จะขยายตัวต่ำกว่า 3% ดังนั้น เราเห็นว่า แผนการเปิดประเทศ ที่คาดหวังให้เกิดกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ควบคู่ไปกับมาตรการเยียวยาต่างๆของรัฐ จะพาประเทศไทยให้พ้นจากวิกฤติ ทุกฝ่าย ต้องเพิ่มความระมัดระวัง รอบคอบ และรัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดซ้ำระลอก 3 รวมทั้งปัจจัยที่ไม่คาดคิด เช่น การอพยพหนีไฟความไม่สงบจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่จะเป็นตัวแปรสำคัญ