ออกมาปรากฎตัวอยู่พักใหญ่ ในคลับเฮ้าส์ ของ "ทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ใช้ชื่อ "Tony Woodsome" สร้างความฮือฮามาได้พักใหญ่ เพราะทักษิณ กำลังเล่นในบทที่ตัวเองถนัด และเชี่ยวชาญ นั่นคือการเป็น กูรูแสดงทัศนะในหลายเรื่องหลากมิติ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ ยิ่งทักษิณ สวมบทกูรู เปิดหน้าวิเคราะห์ผ่านคลับเฮ้าส์มากเท่าใด ยิ่งทำให้เกิดภาพเปรียบเทียบ มาถึง "บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มากขึ้นเท่านั้น จนเกิดคำถามมาถึงพล.อ.ประยุทธ์ อยู่หลายครั้ง เมื่อทักษิณ ปรากฎตัวผ่านโลกโซเชียล อย่างต่อเนื่องในอีกทางหนึ่ง จึงเหมือนเป็นการตรึงพื้นที่สื่อ เอาไว้ในมือ ในห้วงที่ "พรรคเพื่อไทย" พรรคการเมืองในการกำกับดูแล ยังไม่อยู่โหมดที่สามารถ "ทำแต้ม" ได้มากไปกว่าพรรคก้าวไกล ยิ่งเมื่อเวลานี้อยู่ในห้วงปิดสมัยประชุมสภาฯ ผนวกเข้ากับความเคลื่อนไหวของ "ม็อบราษฎร"ที่ชิงกระแส ยืนประจันหน้ากับรัฐบาล จนถึงวันที่ แกนนำถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ แต่ก็ยังกลายเป็นว่า นาทีนี้ทุกสายตายังจับจ้อง อยู่ที่ความเป็นอยู่ ไปจนถึงโอกาสที่จะได้รับการประกันตัวหรือไม่ แต่แล้ว ขณะที่ทักษิณ ใช้สื่อโซเชียล ยึดกุมพื้นที่สื่อ แข่งกับรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ อยู่นั้น ปรากฎว่า เมื่อล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจาก "ลูกน้องเก่า" อย่าง "จตุพร พรหมพันธุ์" ประธานแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (นปช.) ที่ออกมาประกาศร่ำๆ ปลุกม็อบทุกเสื้อสีให้ออกมาร่วมกัน "ขับไล่" พล.อ.ประยุทธ์ เพราะทนให้บริหารประเทศต่อไปไม่ไหวแล้ว แน่นอนว่า เมื่อลูกน้องเก่า อย่างจตุพร ออกโรงประกาศตัวขออาสามาชูธงไล่บิ๊กตู่ เช่นนี้ ย่อมทำให้เกิดคำถามตามมา ว่า "นายใหญ่" นายเก่าอย่างทักษิณ จะรู้เห็น หรือส่งสัญญาณให้ออกมาจัดอีเว้นท์การเมืองด้วยหรือไม่ ? งานนี้จะจริงหรือไม่ ยังเป็นคำถามปลายเปิดที่รอการพิสูจน์ แต่ในระหว่างนี้อย่าลืมว่า คนที่จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากตัวทักษิณเอง ! ยิ่งเมื่อจับสัญญาณจากฝ่ายตรงข้ามจะพบว่านาทีนี้ทักษิณ โดนถล่มอย่างหนัก โดยเฉพาะข้อหาที่ยิงหมัดตรงไปถึงอดีตนายกฯว่าอยากให้ประวัติศาสตร์บันทึกเรื่องราวของตนเองเอาไว้อย่างไร และหากทักษิณ อยู่เบื้องหลังจริง จะมั่นใจได้หรือไม่ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาจากนี้เมื่อลูกน้องเก่า ออกมาเคลื่อนไหวประกาศจะปลุกม็อบ จะไม่ทำให้ตัวเองเป็นฝ่ายได้รับผลกระทบเสียเอง เสียงโจมตีทักษิณ ที่เริ่มดังเซ็งแซ่ เวลานี้ดูเหมือนว่ากำลังถูกขยายแผล ออกไปให้เชื่อมโยงกับการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ ในนาม "กลุ่มราษฎร" ซึ่งมีเป้าหมายหลักอยู่ที่การเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยท่าทีก้าวร้าว หยาบคาย จนทำให้เกิดกระแส "ตีกลับ" ตามมาพร้อมกับการที่บรรดาแกนนำถูกจับกุมดำเนินคดีตั้งแต่เบาไปหาข้อหาหนัก อย่างกรณีกระทำผิดตามมาตรา 112 ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะมองในมิติไหน ก็ยิ่งพบว่า ไม่มีทางที่จะเกิดผล "เป็นบวก" ต่อทักษิณ แต่อย่างใด ดีไม่ดี อาจจะพลิกผันจากที่สวมบท "กูรู" ไปสู่ "จำเลยสังคม" พัวพันไปกับการชุมนุมเคลื่อนไหวที่ผู้คนกำลังต่อต้าน ไปโดยปริยาย !