ทีมข่าวคิดลึก
การเดินหน้า "กระชับพื้นที่"จากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะ "ฝ่ายความมั่นคง" ได้ทวีความเข้มข้นมากขึ้นจนเห็นได้ชัด สัมผัสได้อย่างแจ่มแจ้งว่า มีการปูพรม สนธิกำลังกันระหว่าง "ตำรวจ-ทหาร" เข้าตรวจสอบ ค้นหาเบาะแสที่มาที่ไป ของ"เหตุ" แห่งความวุ่นวาย ทั้งการทำลายรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติในจังหวัดต่างๆ ไปจนถึงการค้นหา "ต้นตอ"การให้ข้อมูลอันเป็นเท็จไม่เช่นนั้นแล้ว วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คงไม่มีรายการใหญ่โดยการส่งเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจเข้าไปตรวจค้นบ้านพัก และธุรกิจเครือข่ายนักการเมืองชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่รับรู้กันดีว่าจังหวัดเชียงใหม่คือพื้นที่ฐานเสียงหลักของพรรคเพื่อไทยและครอบครัว "ชินวัตร" !การที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กว่า 300 นาย พร้อม ด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน บุกเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุด ซึ่งเป็นเครือข่ายนักการเมือง จ.เชียงใหม่ตั้งแต่เช้าตรู่ ของวันเสาร์ที่ 23 ก.ค.
เพราะได้เบาะแสว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่ง "จดหมาย" บิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่ง 1 ใน 6 จุดเป้าหมายสำคัญนั้น คือ บริษัท ทัศนาภรณ์ จำกัด ถ.เชียงใหม่-สันกำแพงต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวของตระกูล"บูรณุปกรณ์" และบ้านเลขที่ 11 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับบริษัททัศนาภรณ์จำกัด ส่วนอีก 4 จุดเป้าหมาย ก็ตั้งอยู่บนถนน เชียงใหม่-สันกำแพงถนนเส้นเดียวกันนั่นเอง
ในการตรวจค้นรอบนี้ เจ้าหน้าที่พบเอกสารที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับการทำจดหมายบิดเบือนจำนวนมาก อาทิ ซองจดหมาย กระดาษและเครื่องพรินเตอร์ ที่ใช้ผลิตจดหมายอยู่ภายในบริษัท ทัศนาภรณ์
แน่นอนว่าการบุกเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุดในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยและยังเป็นสัญลักษณ์ของทักษิณ และย่อมจะนำไปใช้ขยายความในทางการเมืองได้โดยปริยาย ทั้งนี้มีแนวโน้มว่า "ปฏิบัติการกระชับพื้นที่" จากฝ่ายความมั่นคงจะยิ่งทวีความเข้มข้นมากขึ้นทุกขณะ เพราะนี่คือการรุกกลับของฝ่ายตรงข้ามคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในเชิงสัญลักษณ์ที่คสช.เองกำลังช่วงชิงและ "ล้อมกรอบ" ฝั่งตรงข้ามขณะที่ฝ่ายพรรคเพื่อไทยเองต้องหาช่องทางเพื่อตอบโต้กับคสช.ในห้วงจังหวะที่เวลาก่อนถึงวันลงประชามติกำลังงวดเข้ามา เหลืออีกเพียงไม่กี่วัน อีกทั้งเมื่อ "คนเสื้อแดง" เพิ่งถูกปิดพีซทีวี ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน จนบรรดาแกนนำ นปช.ต้องทำพิธีอำลาและโจมตี คสช.ผ่านช่องพีซ ทีวี เพื่อเป็นการทิ้งท้ายอย่างดุเดือด
ดังนั้นเวลานี้ กลไกของฟากทักษิณ จึงน่าจะเหลือเพียงการส่งแกนนำของพรรคออกมาให้ข่าวรายวันเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งร่างรัฐธรรมนูญ ไปพร้อมกับการ "เปิดแผล" ตีที่จุดอ่อนของ คสช. โดยการขยายประเด็น ฟ้องประชาชนว่า"บิ๊กตู่"พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. วางเกม "อยู่ยาว" ไม่ว่าประชามติรอบนี้ ผลลัพธ์จะออกมาอย่างไรก็ตาม !
เพราะพรรคเพื่อไทยเชื่อว่านี่คือสิ่งที่ คสช. พยายามเก็บงำ และปฏิเสธมาตลอดว่าทุกอย่างจะต้องเดินหน้าไปตามโรดแมป ของ คสช.ด้วยการปักธงเอาไว้ที่การเลือกตั้ง 2560 เพื่อลดแรงกดดันทั้งในและนอกประเทศ ล่าสุด "จาตุรนต์ ฉายแสง" แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่มีชื่อติดหนึ่งในแคนดิเดต "ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย" ออกมาส่งสัญญาณท้ารบ คสช. ด้วยการชำแหละเรื่อง"ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี" คือเป้าหมายจริงที่ คสช. วางแผนการเล่นเอาไว้หมดแล้ว ทั้งการวางกับดัก"นักการเมือง" ลดความแข็งแกร่งของการเมือง ให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ คสช. ที่เปลี่ยนรูปแบบการเล่น โดยรัดกุมมากยิ่งขึ้น เท่านั้น !