รัฐบาลได้อนุมัติมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 มีมติเห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จำนวน 2 มาตรการ คือ มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการธุรกิจ (สินเชื่อฟื้นฟู) และมาตรการสนับสนุนการรับโอนทรัพย์ชำระหนี้ และให้สิทธิลูกหนี้ซื้อคืน (โครงการพักทรัพย์ พักหนี้) วงเงิน 1 แสนล้านบาท วงเงินรวม 3.5 แสนล้านบาท และยังได้อนุมัติโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส3ออกมาแล้วโดยเพิ่มจำนวนสิทธิ์ห้องพัก 2 ล้านห้องพร้อมขยายเวลาใช้ได้ถึงวันที่ 31กรกฎาคม 2564 ขณะเดียวกันโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับความนิยมจากประชาชนจะออกมาอย่างแน่นอน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาและคาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ภายในเดือน เมษายน 2564 หลังสงกรานต์ เบื้องต้นจะให้ผู้ที่ได้รับสิทธิแล้วเข้าไปยืนยันตัวตนอีกครั้งก่อนใช้งาน และไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ นอกจากนี้ กำลังพิจารณาถึงการขยายฐานผู้ใช้งาน จากปัจจุบันมีฐานผู้ใช้จากมาตรการคนละครึ่ง ระยะที่ 1 และ 2 รวมกันประมาณ 15 ล้านราย โดยงบประมาณที่จะใช้ดำเนินโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 จะมาจาก พ.ร.ก.กู้ฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ยังเหลืออยู่ประมาณ 2 แสนกว่าล้านบาท และคาดว่าการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาของปี 2564 จะเป็นแรงหนุนต่อตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ประมาณ 0.8% ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง ได้รายงานความคืบหน้าโครงการเราชนะ ณ วันที่ 23 มีนาคม 2564 พบว่า กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.7 ล้านคน กลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง กลุ่มที่ลงทะเบียนเว็บไซต์เราชนะ และกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ รวม 32.4 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 150,319 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) กล่าวว่า ที่ประชุม กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง พร้อมทั้งปรับลดประมาณการการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปี 2564 เหลือ 3% จากเดิมที่ 3.2% และในปี 2565 ปรับประมาณการเหลือ 4.7% จากเดิมที่ 4.8% ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่า จะอยู่ที่ 5.5 ล้านคน เหลือ 3 ล้านคน เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน ยังระบุด้วยว่า เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวยังช้ากว่าประเทศอื่น เพราะผลจากภาคบริการและภาคท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2 ปีครึ่ง หรือกลับมาฟื้นตัวได้เหมือนก่อนช่วงเกิดโควิด-19 ช่วงกลางปี 2565 บรรทัดนี้ เราเห็นว่า ปัจจัยเรื่องวัคซีนจะช่วยสร้างความมั่นใจและผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ด้วยเราไม่อาจดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตลอดไป ด้วยข้อจำกัดของวงเงินจากพ.ร.บ.เงินกู้ แต่เมื่อหันมาดูตัวเลขข้อมูล จำนวนผู้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทยตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์-23 มีนาคม สะสมรวม 102,050 โดส รวม 96,188 ราย แยกเป็น ผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 96,188 ราย และผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม จำนวน 5,862 ราย ก็ยังต้องลุ้นกันเหนื่อยหน่อย