ทีมข่าวคิดลึก ภารกิจของคนในพรรคเพื่อไทยยามนี้มีแนวโน้มว่าหนักหนา สาหัสอยู่ไม่น้อยด้วยความที่ "สถานภาพ" ของพรรคได้ ผูกโยงเอาไว้กับความเป็นไปของ "ชินวัตร" เมื่อ "ศูนย์อำนาจ" โดนมรสุมโถมเข้าใส่ชนิดไม่ทันได้ตั้งตัว ก็อย่าได้แปลกใจหาก "แรงสั่นสะเทือน" จะตกกระทบไปถึงสมาชิกพรรคเพื่อไทย อย่างไม่ต้องหลีกเลี่ยง ! ในระหว่างที่หน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งตำรวจและทหาร ต่างวุ่นวายอยู่กับการ "หาคำตอบ" ให้ได้ว่า "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี หายตัวล่องหนไปจากประเทศไทย ได้อย่างไร"ใคร" พาหนี หรือแม้กระทั่ง ล่าสุด "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะออกมาระบุ ว่าพบ ร่องรอยเส้นทางหลบหนีของยิ่งลักษณ์ แล้วว่าผ่านไปทาง จ.สระแก้ว โดยใช้รถเบนซ์เป็นยานพาหนะในการหลบหนี ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ทา งการเมืองได้รุดหน้ารวดเร็วไปถึงการจัดทัพเตรียมต่อสู้ของพรรคเพื่อไทยนับจากวันที่รู้ว่า ยิ่งลักษณ์ เลือกทางหลบหนีแทนการเผชิญหน้ารับฟังคำพิพากษา จากศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมาไปเรียบร้อยแล้ว เพราะพรรคเพื่อไทย รู้ดีว่า "ทางรอด" จากนี้ไป อาจมีเพียงทางเดียว นั่นคือการใช้ยุทธวิธีการเล่นในรูปแบบของการสู้ในชัยภูมิที่ตนเองเป็นฝ่าย "ได้เปรียบ" และไม่พยายามเล่นในเกมที่มีแต่นำพาไปสู่ความสุ่มเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นการชู "ผู้นำพรรคคนใหม่" ที่เคยมีชื่อกันมาก่อนหน้านี้ ทั้ง "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์"หรือใครก็ตาม เว้นเสียแต่ต้องการเปิดกลยุทธ์ โยนหินถามทาง หรือมุ่งดิสเครดิตคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯ และหัวหน้า คสช. ด้วยการกวนน้ำให้ขุ่น เขย่า พล.อ.ประยุทธ์ และ พี่น้องบูรพาพยัคฆ์ด้วยข้อหา "เกี้ยเซียะ"จนทำให้บิ๊ก คสช. ต้องออกมาปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า โดยมีรายงานข่าวว่าการตัดสินใจเลือก "ใคร" ให้ทำหน้าที่ถือธงนำทัพให้กับพรรคนั้น จะประเมินจาก"สถานการณ์"ในแต่ละห้วงเวลาเป็นหลัก เนื่องจากไม่สามารถ "วางเกมยาว"ได้ทั้งกระดานเพราะอะไรๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ! นอกจากนิ้ในพรรคยังมี "ผู้เล่น" อีกหลายคนที่ทักษิณสามารถผลักดันขึ้นมาให้ทำงาน ไม่ใช่เพียงแค่คุณหญิงสุดารัตน์ เท่านั้น แต่เมื่อยามนี้พรรคเพื่อไทยต้องการเล่นเกม "หมอบ" แกล้งตาย หวังให้เกิดภาพ "ทอดไมตรี" ไป ยัง คสช.การให้บทบาทแก่คุณหญิงสุดารัตน์ จึงเกิดขึ้นอย่างที่เห็น แต่อาจไม่ใช่ "คำตอบสุดท้าย" การวางกลยุทธ์ของพรรคเพื่อไทยเพื่อต่อสู้ทางการเมืองวันนี้ ต้องยอมรับว่า อาจไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มพิกัด หลังจากที่เกิดรายการ"บิ๊กเซอร์ ไพรส์"เจ้านายหายตัวล่องหน หนีคำพิพากษาที่ผ่านมา แต่ขณะเดียวกันย่อมไม่ ได้หมายความว่า แกนนำของพรรคจะอยู่นิ่งเฉยโดยไม่ตอบโต้ ชี้แจงหรือแม้แต่ "แฉกลับ"ฝ่ายตรงข้าม ในประเด็นต่างๆนัยว่าจะเพื่อเป็นการ "ชิมลาง"แสดงให้ คสช.ได้พอประเมิน "ศักยภาพ"ของพรรคเพื่อไทย หากหลังการเลือกตั้งต้องกลายเป็น "พรรคฝ่ายค้าน"ว่าจะเป็นเสมือน "หอกข้างแคร่"คอยทิ่มแทง"นายกฯ คนที่ 30" และ "รัฐบาลใหม่"ที่แว่วว่า คสช.ตีตราจองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว!