กำหนดการนัดหมาย "กระชับมิตร" ของ "พรรคร่วมฝ่ายค้าน" ผ่านกิจกรรม "2 ปี ความร่วมมือพรรคร่วมฝ่ายค้าน" ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 1 เม.ย.เวลา 18.00 น. ที่โรงแรม SC Park ดูเหมือนว่าจะเป็นงานนัดรับประทานร่วมกันในช่วงปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญ ที่จะไปเปิดสภาฯกันอีกครั้งในเดือนพ.ค. แต่หากมองในอีกมิติหนึ่งจะพบว่าในห้วงสถานการณ์ การเมืองที่ พรรคฝ่ายค้านยังไม่อาจชิงเอาชัย จาก "ฝั่งรัฐบาล" ลงได้อย่างเบ็ดเสร็จ เช่นนี้การพบปะระหว่าง6พรรคฝ่ายค้าน ยังเหมือนเป็นการทำเอ็มโอยูร่วมกันอย่างหลวมๆ ว่าพรรคฝ่ายค้านทั้ง 6 พรรคยังจะจับมือร่วมหัว จมท้ายกันต่อไปอีกยาวๆ เพราะอย่าลืมว่า ลึกๆแล้ว ภายในพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันเองใช่ว่าจะจับมือกันอย่างเหนียวแน่น ในทางตรงกันข้าม กลับพบว่ามีความเคลื่อนไหวของส.ส.ปีกฝ่ายค้านเองที่รอคอยโอกาส "สละเรือ" ละทิ้งสถานภาพ "ฝ่ายค้าน" แล้วกระโดดไปขึ้น "เรือเหล็ก" ย้ายไปอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล พรรคใด พรรคหนึ่งกันไม่น้อย ! อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรมกระชับมิตรฝ่ายค้านครั้งนี้ ว่า วาระที่ฝ่ายค้านจะหารือกัน ประกอบด้วย 1.ประเมินการทำงานร่วมกันตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา หรือครึ่งเทอมของรัฐบาล 2.กำหนดท่าทีร่วมกันในการเดินหน้าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายประชามติ 3.กระชับความสัมพันธ์ร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้าน และ 4.กำหนดจุดยื่นในการต่อสู้ร่วมกันในอนาคต 2 ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานสำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะต้องรับมือกับเกมทั้งในและนอกสภาฯ เมื่อฝ่ายรัฐบาล ไม่ได้มีแค่พรรคพลังประชารัฐ ที่จับมือกับ "250 สว." อันเป็นฐานกำลังหลักของรัฐบาลเท่านั้น เนื่องจากยังมี "แนวร่วม" ที่สนับสนุนรัฐบาลของ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อยู่ไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะการที่ฝ่ายค้านถูก "กฎหมาย" ตรวจสอบ ในประเด็นต่างๆเมื่อมีการไปยื่นเรื่องร้องตามองค์กรอิสระ อย่างต่อเนื่อง จนส่งผลสะเทือนต่อพรรคฝ่ายค้านอย่างหนัก ในกรณีของพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบพรรค จนเหลือส.ส.รอดกลับมาตั้งพรรคก้าวไกล ในวันนี้ และยังมีแนวโน้มว่าพรรคก้าวไกล กำลังถูกร้องให้ "ยุบพรรค" ตามมาอีกรอบ เมื่อล่าสุด หมายความว่าในระหว่างเส้นทางการต่อสู้ของพรรคฝ่ายค้าน ทั้ง 6 พรรคนอกจากจะต้องรับมือกับความอ่อนแอ จากการที่มีส.ส.งูเห่า แฝงตัวอยู่ จนไม่อาจเกิดเอกภาพแล้ว ยังต้องลุ้นกันชนิดช็อตต่อช็อตว่าจากนี้ไปจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้งครั้งใหม่ ในปี 2566หากรัฐบาลอยู่จนครบเทอม จะยังคงเหลือส.ส.ในปีกฝ่ายค้าน เกาะกลุ่มกันจำนวนมากน้อยเท่าใด!? การเดินทางกว่า 2 ปีของพรรคฝ่ายค้านที่ผ่านมา หากจะบอกว่ายุ่งยาก และหนักหนาแล้ว แต่เมื่อมองไปข้างหน้ากว่าจะครบเทอมของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ดูจะเป็นหนทางที่เต็มไปด้วย "วิบาก" ไม่น้อย ยิ่งเมื่อพรรคฝ่ายค้าน "ฝากความหวัง" เอาไว้ที่ "ม็อบเยาวชน" หวังจะให้โค่นล้มรัฐบาล ด้วยการชุมนุมก็ดูจะเป็นเรื่องยากเกินบรรยาย !