ภาพที่ "เสี่ยหนู"อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ "เสี่ยโอ๋" ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เดินเข้ามาหา พร้อมยกมือไหว้ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขณะกำลังแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่ทำเนียบรัฐบาล ในท่ามกลางกระแสของความบาดหมางกันลึกๆ ที่ต่างฝ่าย ต่างพยายามทำให้ "รอยร้าว"ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล จบลงโดยเร็วและสวยที่สุด ! ภาพเหตุการณ์เช่นนี้ดูจะเป็นบวก ต่อทั้งพรรคพลังประชารัฐและภูมิใจไทย ไม่น้อย เพราะอย่างน้อยนี่คือการสะท้อนให้เห็นว่า ระดับ "บิ๊กๆ" ด้วยกันนั้น ย่อมเคลียร์ใจกันได้ ขณะที่ "ไพบูลย์ นิติตะวัน" ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี "6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์" งดลงคะแนนให้ ศักดิ์สยาม และ กรณี สมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง งดลงคะแนนให้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุถึงความคืบหน้าว่าผลการตรวจสอบออกมาแล้ว แต่จะขอทำรายงานเสนอต่อกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากเป็นเรื่องภายในพรรค โดยมีรายงานว่า พบว่า ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์และสมพงษ์ ส.ส.ระยอง กระทำการขัดต่อมติพรรคพลังประชารัฐจริง แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญ ได้ให้การคุ้มครองเอาไว้แก่ส.ส.จึงทำให้พรรคไม่สามารถดำเนินการลงโทษส.ส. แต่จะให้ส.ส.ที่ฝ่าฝืนมติพรรค แสดงสปิริตด้วยการแถลงข่าว ด้วยตัวเอง ซึ่งดูจะสอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของอนุทิน ว่าหากจะมีการมาขอโทษ ก็ต้องขอโทษศักดิ์สยาม " ถ้าขอโทษก็ต้องขอโทษนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค แบบนี้ชัดไหม ?" อากัปกริยาการแสดงออกต่อกันระหว่างบิ๊กป้อม ในฐานะผู้จัดการายรัฐบาล กับ "บิ๊กเนม" ของพรรคภูมิใจไทย กำลังสะท้อนให้เห็นว่าที่สุดแล้ว เมื่อระดับ แกนนำพูดคุยกันแล้ว เสียงที่ดังเซ็งแซ่จากส.ส.ที่กำลังเคลื่อนไหว ในทิศทางที่ท้าทาย มติพรรคของตัวเอง จะต้องไม่ถูกนำขึ้นมา "ขยายความบนโต๊ะ" เพราะจะยิ่งทำให้การอยู่ร่วมกัน ยากจะราบรื่น ทั้งที่ต่างจะต้องอยู่ในเรือลำเดียวกันต่อไปอีกยาว การเคลียร์ปัญหา "ศึกข้ามพรรค" โดยผู้จัดการรัฐบาล ระดับ "บิ๊กป้อม"พล.อ.ประวิตร อันเป็นผลสืบเนื่องมาจาก "ศึกซักฟอก" ที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงไป มีความจำเป็นที่จะต้อง "ยุติ"โดยเร็ว ไม่อย่างนั้นแล้ว พรรคพลังประชารัฐ จะกลายเป็นฝ่ายที่ตกอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ ไม่ใช่ฝ่ายที่ถือแต้มต่อ เพราะความไม่พอใจและความบาดหมางกันเอง เมื่อลูกพรรคพลังประชารัฐ ไม่ยกมือสนับสนุนทั้ง ศักดิ์สยาม เลขาฯพรรคภูมิใจไทย กับ จุรินทร์ ระดับหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อาจจะกลายเป็น "เงื่อนไข" ที่นำไปสู่การเปิดเกม "ต่อรอง" ในทางการเมือง ตามมา โดยใช่เหตุ ! การเป็นพรรคใหญ่ แกนนำรัฐบาลรัฐบาล อย่างพรรคพลังประชารัฐ ย่อมไม่ได้หมายความจะเป็นฝ่าย "กำหนดเกม" ควบคุมการเล่นได้หมดทั้งกระดาน !