สถานการณ์การฉีดวัคซีนต้านโควิดในสหรัฐอเมริกา จากข้อมูล ณ วันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ได้รับการฉีดวัควีนครบแล้ว 26.1 ล้านคน หรือ 7.97% ของประชาชน ขณะที่มีผู้ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส กว่า 51.7 ล้านคนคิดเป็น 15.77%ของประชากร แต่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ไม่วายต้องออกมาตำหนิกรณีที่นายเกรก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเทกซัส และนายเทต รีฟส์ ผู้ว่าการรัฐมิสซิสซิปปี หลังออกคำสั่งให้ประชาชนยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัย ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นายไบเดน กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจอย่างผิดพลาดครั้งใหญ่ พร้อมทั้งระบุด้วยว่า ผู้ว่าการรัฐทั้งสองมีความคิดเหมือนมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล ซึ่งเป็นมนุษยยุคหินประเภทหนึ่ง จากการที่พวกเขาคิดว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ในสหรัฐฯ ดีขึ้นแล้ว ทุกคนถอดหน้ากากอนามัยได้ โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวย้ำว่า การสวมหน้ากากอนามัยยังเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอยู่ เพราะทำให้การควบคุมโรคเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงยังต้องเว้นระยะห่างทางสังคม และหมั่นล้างมือทำความสะอาด ขณะที่นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่า เป็นการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบ และเป็นสัญญาณอันตราย เนื่องจากที่ผ่านมา เมื่อมีการผ่อนปรนมาตรการด้านสาธารณ สุข จำนวนผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 จะกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่ยกตัวอย่างสถานการณ์ของสหรัฐฯขึ้นมา ก็เพราะบ้านเรานั้นเพิ่งจะเริ่มฉีดวัคซีนซิโนแวคให้กับกลุ่มเสี่ยงเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็เริ่มผ่อนปรนมาตรการการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก และให้สถานบันเทิงเปิดบริการขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาเตือน โดยอ้างรายงานจากที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข ถึงผลสำรวจพบคนไทยใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้าลดลง มีเพียง 80% เท่านั้น ลดลงจากเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีมากกว่า90% เป็นสัญญาณอันตราย และเป็นความเสี่ยง ที่อาจจะทำให้มีการระบาดรอบใหม่ได้อีกครั้ง พร้อมขอความร่วมมือทุกท่าน ใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า เพิ่มขึ้นให้ถึง 100% ฉะนั้น แม้จะมีวัคซีนแล้วแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะหมดไป ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เมื่อฉีดวัคซีนแล้วยังมีโอกาสป่วยได้ เนื่องจากวัคซีนป้องกันไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่หลังฉีดวัคซีน ถ้าเป็นโรคส่วนใหญ่อาการน้อยลง ลดอัตราการเสียชีวิต ลดความรุนแรงที่จะเข้าโรงพยาบาล อีกทั้งเสียงย้ำเตือนมาจาก ดร.นพ.ไมเคิล เจ. ไรอัน ผอ.สำนักงานบริหารโครงการสุขภาพภาวะฉุกเฉินแห่งองค์การอนามัยโลก หรือ WHOที่ย้ำว่าวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะยังไม่ยุติในปีนี้ แม้ว่าหลายประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิดฯ กันไปแล้วก็ตาม ดังนั้น หน้ากากอนามัยจึงยังเป็นอาวุธสำคัญในการป้องกันตนเอง โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ผ่านมา การหลุดรอดเข้ามาของ VIP และการหลุดรอดเข้ามาจากกรณีติดเชื้อจากสถานบันเทิงท่าขี้เหล็ก ที่นำไปสู่การระบาดรอบใหม่ แม้จะจำกัดวงของการระบาดให้แคบลงได้ แต่ก็ต้องสูญเสียทางเศรษฐกิจไปมหาศาล ฉะนั้น กลับมาใส่หน้ากากกันเถอะ