ดร.วิชัย พยัคฆโส [email protected] หลังจาก 3 รมต. หลุดจากเก้าอี้ รมต.ตามคำพิพากษาของศาลในคดี กปปส. ทำให้บรรดา ส.ส.ทั้งหลายต่างวิ่งกันวุ่นเพื่อขอตำแหน่ง รมต.กับเขาสักคน โดยมีมุ้งเล็กๆคอยหนุนให้กำลังใจกันอยู่ จนไม่รู้ว่าจะลงที่โผของใคร ที่วิ่งกันมากจนขาขวิดคือพลังประชารัฐ ต่างมีมุ้งของตัวเองจึงวิ่งกันอุตลุด ให้ตัวเองติดโผไปกับเขาด้วย แต่พลังประชารัฐได้ลงชื่อกันมอบให้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคือพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ มีสิทธิชี้ขาดให้เสนอรายชื่อแก่นายกรัฐมนตรี คาดกันว่าน่าจะปลายมี.ค.นี้จะได้รมต.คนใหม่มาแทนคนเก่า โดยคงรอให้การเลือกตั้งนครศรีธรรมราชเขต 3 เสร็จสิ้นเสียก่อน และอาจจะดึงกลุ่มใต้มี 13 คน เข้ามาติดโผ รมช.ก็ยังดี แต่รัฐมนตรีว่าการคงต้องรอให้นายกรัฐมนตรีชี้ขาด ความจริงการปรับคณะรัฐมนตรีเที่ยวนี้คงต้องคำนึงถึงการพัฒนาประเทศหลังโควิด-19 ซึ่งได้ฉีดวัคซีนกันไปแล้ว และความมีประสิทธิภาพในการบริหารประเทศให้ก้าวหน้า ผลิกฟื้นประเทศไทยให้กลับคืนมาและการปฏิรูปประเทศที่ปรับปรุงใหม่ 13 เรื่องที่ ครม.อนุมัติไปแล้ว ดังนั้นคงต้องสรรหาคนเก่ง คนดี คนกล้า ในการเร่งปฏิรูปประเทศให้เห็นเป็นกอบเป็นกำ โดยไม่คำนึงถึงความเป็นผู้นำทางการเมืองที่เลือกข้างเอาเฉพาะการที่จะสามารถยืนอยู่บนตำแหน่งได้นานเท่านาน ซึ่งขึ้นอยู่กับภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีว่าจะแสดงออกมาอย่างไร แต่อย่าให้ถึงกับประชาชนร้อง “ยี้” ก็แล้วกัน โดยเฉพาะบางคนในพลังประชารัฐที่ไม่ค่อยจะมีผลงานเป็นกอบเป็นกำ เงียบมานาน เพียงแต่เดินเคียงข้างหัวหน้าพรรค เพื่อเสนอตนเองเป็น รมต.กับเขาบ้าง ซึ่งมุมมองของผู้บริหารยังไม่เข้าชื่อชั้นยังเป็นรองคนอื่นอยู่มาก คงต้องลุ้นกันตัวโก่งว่านายกรัฐมนตรีจะเลือกใคร ระหว่างคนดี คนเก่ง คนกล้าตัดสินใจเหมือนนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯจะแสดงออกถึงภาวะผู้นำเพื่อชาติ ให้ประชาชนได้พึ่งพาอาศัยปลายเดือนนี้ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีน่าจะมีภาวะผู้นำมากกว่าภาวะอิงการเมืองให้ประชาชนเขามองว่าโอเคดีกว่ากระมัง น่าจะเร่งช่วยกันปราบม็อบทั้งหลายที่เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นจลาจล ตำรวจเสียชีวิตและบาดเจ็บนับสิบราย การเหิมเกริมเช่นนี้มิใช่ปกติวิสัยของคนไทย จนสำนักข่าวต่างประเทศได้ทำข่าวตามข้อเท็จจริงประณามไปทั่วโลก ด้วยวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นกับการเปิดประเทศ เพื่อฟื้นฟูประเทศเข้าสู่สังคมโลก คงต้องอดทนและเร่งรัดจัดการกับม็อบที่ปราศจากความรับผิดชอบเช่นนี้ให้ราบคาบ เป็นการแสดงภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีอีกด้านหนึ่ง ภาวะผู้นำเป็นวิสัยทัศน์ที่ประชาชนอยากเห็น เพื่อตัดภาวะผู้นำทางการเมืองออกไป เหลืออีก 2 ปีเศษ ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ต้องเกรงใจใคร ใครไม่ดี ไม่เก่ง ต้องออกไป แสดงภาวะผู้นำหรือ Leadership ออกมาให้ปรากฏ