การเมืองไทยผ่านกระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจและแรงเสียดทานจากการเมืองท้องถนนไปแล้ว โดยไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ รัฐบาลยังเป็นชุดเดิม นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แม้จะมีกระแสข่าวกดดันให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่ได้รับการโหวตไว้วางใจน้อย กระนั้น นักวิเคราะห์ต่างมองว่า อาจยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะปรับคณะรัฐมนตรีในเร็วๆนี้ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง จึงไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดขึ้นในรัฐบาล ในขณะที่รัฐบาลยังคงต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์การการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจนั้น แม้ช่วงนี้รัฐบาลจะผลักดันมาตรการต่างๆ ในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อหันไปดูสถานการณ์โลก ความเคลื่อนไหวภายหลังการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ของนายโจ ไบเดน ที่ต่อสายสนทนากับประธานาธิบดีของจีน นายสี จิ้นผิง เป็นครั้งแรก เป็นที่จับตาของทั่วโลก แม้สื่อจีนจะมองว่าเป็นสัญญาณดีสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างจีน กับสหรัฐ ด้วยทั้งคู่รู้จักคุ้นเคยกันมาเป็นเวลานาน ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายหวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ทำงานร่วมกับรัฐบาลจีน เพื่อกลับมาเปิดการเจรจาระหว่างสองประเทศอีกครั้ง และฟื้นความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี หลังจากที่เกิดปัญหาความสัมพันธ์กันในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้ว แม้จะดูเหมือนว่า ความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจสองประเทศนั้นจะมีแนวโน้มลดลง หากแต่อีกด้านหนึ่งท่าทีของไบเดน ที่ต่อสายเจรจากับผู้นำจีนนั้น ก็ถูกมองว่าเป็นเพียงพิธีกรรม หรือมายาทโดยที่เขาเองก็ต่อสายถึงบรรดาผู้นำประเทศอื่นๆ เช่น นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ขณะที่ก็มีรายงานอีกด้านหนึ่งว่า ระหว่างการพูดคุยกันของนายไบเดน กับนายสี จิ้นผิง นั้นเป็นไปแบบประหยัดถ้อยคำด้วยซ้ำ อีกทั้งการดำเนินนโยบายของนายไบเดน ไม่อาจมีความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างแท้จริง เนื่องจากอิทธิพลของภาคเอกชนในสหรัฐเอง ที่ได้รับผลกระทบจากสินค้าของจีน ที่มีราคาต่ำกว่า เป็นปัจจัยที่ต้องระมัดระวัง เพราะในการทำสงครามการค้าของอดีตประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ นั้นก็มีผลพวงให้เกิดการจ้างงานในสหรัฐฯ และสินค้าเมดอินยูเอสเอ และแม้นายไบเดน จะยอมลดราวาศอกเรื่องการค้ากับจีน แต่ก็ยังมีประเด็นเรื่องของสิทธิมนุษยชนที่ นายไบเดนให้ความสำคัญ ซึ่งจีนถูกจับตามองเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์อยู่ อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯและจีน ทำให้อุณหภูมิโลกลดความร้อนแรงลงชั่วขณะ แต่สำหรับประเทศไทยยังไม่อาจไว้วางใจ หรือมองโลกสวยได้ในขณะนี้ และคงต้องวางบทบาทอย่างระมัดระวังต่อไป