ล่วงเข้าวันที่ 3 ของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐมนตรีเป็นรายบุคคล หลังจากที่ต่างฝ่าย ต่างปะทะ วัดกำลังกันมาแล้ว 2วันแรกที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่า เมื่อ6พรรคฝ่ายค้านใช้เวลาไปแล้วกว่าครึ่งทางไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมง ก็ยังไม่สามารถ “ออกอาวุธ” กระแทก “10รัฐมนตรี” ให้กระเทือน ได้อย่างจะแจ้ง !
การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ของวันที่ 3 เมื่อ18 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นคิวที่ “รัฐมนตรี” จากพรรคร่วมรัฐบาลถูกถล่ม ตั้งแต่ช่วงเช้า ไม่ว่าจะเป็น “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่พรรคเพื่อไทยส่ง “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เปิดเกมอภิปรายด้วยกรณีละเลยปล่อยให้มีคนใกล้ชิดร่วมทุจริตเงินองค์การคลังสินค้า (อคส.) จำนวน 2,000 ล้านบาท จัดซื้อถุงมือยาง
ซึ่งแน่นอนว่า จุรินทร์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมเพียงลำพัง เพราะมี ส.ส.ของพรรคอาทิ อัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี และอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี ได้ลุกขึ้นประท้วงและชี้แจง ว่าประเสริฐ นำเอกสารเท็จมาใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังไม่ผ่านความเห็นชอบ หรือมติของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพาณิชย์ และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร
รวมทั้งนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเองที่ถูกอภิปรายประเด็นปัญหาตั้งแต่เมื่อครั้งที่เจ้าตัวยังนั่งเป็น นายกอบจ. สงขลา
ขณะที่พรรคภูมิใจไทยเอง “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลุกขึ้นชี้แจงในที่ประชุมสภาฯ ตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 17 ก.พ. ในเรื่องปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว ร่วมกับ “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกทม.
แต่ประเด็นได้ถูกลากยาวมาถึงการอภิปรายของวันที่ 3 เมื่อถูก “จิรายุ ห่วงทรัพย์” ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย อภิปรายเรื่อง โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 1.28 แสนล้าน ว่ารัฐมนตรีกระทรวงหูกวาง “เอื้อประโยน์”
น่าสนใจว่าศึกซักฟอก 2วันแรกที่ผ่านพ้นไปแล้วนั้น “ฝ่ายค้าน” นอกจากจะยังไม่สามารถ “คว่ำ” ฝ่ายรัฐบาล ลงได้แล้ว โดยเฉพาะการเดินไปสู่ “เป้าหมายหลัก” คือการไล่ถลุง “3ป.” ทั้ง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็ยังไม่บรรลุผล ยังกลายเป็นว่า บรรดาฝ่ายค้าน ยังโดนไล่ “เช็คบิล” จาก “ทีมวอร์รูมนอกสภาฯ” กันถ้วนหน้า
โดยประเดิมที่ “เจี๊ยบ นครปฐม” อมรัตน์ โชคปมิตรกุล ส.ส.นครปฐม พรรคก้าวไกล ถูก “สุภรณ์ อัตถาวงศ์” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อให้ดำเนินคดีกับ อมรัตน์ ข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กรณีที่ใช้คำพูดกล่าวหาโจมตีนายกรัฐมนตรีขณะอภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้วนำข้อความคำพูดดังกล่าวไปโพสต์ในสื่อโซเชียล และในข้อหาผิด ม.112 ที่มีหลักฐานว่ามีการใช้ถ้อยคำที่ก้าวล่วงสถาบันฯ
สถานการณ์หลังการอภิปรายฯจากนี้ดูเหมือนว่า นอกจากบิ๊กตู่ อาจจะไม่ปรับครม. แล้วยังจะกลายเป็นการเปิดปฏิบัติการ “กระชับพื้นที่” ของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะ พรรคก้าวไกลที่เลือกเล่นไพ่ สำรับเดียว เดินคนเดียว รบหน้าเดียว !