ปัญหาเรื่อง “เมียน้อย” ก็ยังต้องให้นายกรัฐมนตรีพูด ! มองในแง่ดีก็เห็นว่าท่านเป็นห่วงสีงคมไทย ห่วงปัญหาทุกเรื่องของคนไทย จึงต้องสอนคนไทยตั้งแต่เรื่องในมุ้งไปจนถึงเรื่องในองค์การสหประชาชาติ ปัญหาของคนไทยนั้นมีอยู่จริงตั้งแต่ระดับในมุ้งไปจนถึงระดับในองค์การสหระชาชาติ แต่กรุณาอย่าใช้นายกรัฐมนตรีไปหมดทุกเรื่อง กรุณาถนอมรักษาไว้บ้าง อันที่จริง เรื่อง “เมียน้อย” ในสังคมไทย เป็น “อัตลักษณ์” ไทยมานมนานแล้ว ท่านโกษาปานไปถึงฝรั่งเศส ก็ต้องเหนื่อยปากอธิบายเรื่องชายไทยหลายเมียกับพวกแหม่มในปารีส เรื่องเมียน้อยเป็นตัวอย่างหนึ่งที่บ่งชี้ได้ว่า ปัญหาทางสังคมทั้งหฃายแหล่นั้น มีรากเหง้าจากวัฒนธรรม สังคมทุกประเทศในโลกปัจจุบันมีความสลับซับซ้อนมาก ปัญหาภายในแต่ละสังคมก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะในรอบหนึ่งร้อยกว่าปีที่ผ่านมา กระแสโลกถือเอายุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจการเมืองเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของประเทศ ทุกประเทศเอาปัญหาด้านเศรษฐกิจการเมืองเป็นด้านหลักในการพัฒนาสังคม อันที่จริง สังคมมนุษย์นั้นก้าวไปด้วยสองขา และหนึ่งสมอง สองขาคือ เศรษฐกิจและการเมือง ส่วนสมองคือด้าน “วัฒนธรรม” ภาคส่วนการเมืองนั้นกำกับกลไกอำนาจรัฐ รูปธรรมที่เข้าใจง่าย ๆ คือ ดูแลความสงบ ความยุติธรรมในสังคม ผู้ที่ทำงานการเมืองมีหน้าที่ดูแลความสงบ ความยุติธรรมข้างต้น ภาคส่วนเศรษฐกิจนั้นกำกับกลไกการจัดสรรประโยชน์จากความมั่งคั่งของชาติ รูปธรรมที่เข้าใจง่าย ๆ คือ ดูแลการจัดสรรกระจายรายได้ของสมาชิกสังคม ดูแลความยุติธรรมในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของส่วนรวม ดูแลความสมดุลของเศรษฐกิจในสังคมเพื่อความผาสุกของคนส่วนรวม นับแต่ระบอบเศรษฐกิจทุนนิยมเข้มแข็ง เป็นระบอบครอบงำโลกแล้ว ปัญหาทางวัฒนธรรมถูกลดความสำคัญไปมาก “วัฒนธรรม” นั้นกำหนดแนวคิดของมนุษย์ เมื่อ “วัฒนธรรม” ปั่นป่วน ไร้หลัก แนวคิดของมนุษย์ก็สับสน ทำให้ผู้คนแปลกแยกและขัดแย้งกันมากขึ้น ประเทศใดจะเลือก “สองขา” แบบไหนก็ได้ มันขึ้นกับ “สมอง” คือด้านวัฒนธรรมว่า พลเมืองมีวัฒนธรรม คือ “จริยธรรม” สูงส่งเพียงใด วัฒนธรรมที่เป็นเรื่องจริงคือวิถีชีวิตของคน คือทุกเรื่องที่เกี่ยวพันกับการดำรงชีวิตของคน ส่วน “วัฒนธรรม” ที่รัฐอธิบายนั้น เน้นไปทางจารีตประเพณี วิถีชีวิต รูปแบบการทำมาหากิน ฯ คือพื้นฐานในการก่อตัวของวัฒนธรรม สมัยก่อนคนไทยทำนาทำไร่พึ่งตนเอง ก่อขึ้นเป็นวัฒนธรรมสังคมเกษตรกรรมเลี้ยงตัวเอง ปัจจุบันรูปแบบการทำมาหากินของทุกคนถูกกำหนดโดยระบอบเศรษฐกิจทุนนิยม วัฒนธรรมของสังคมไทยจึงกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง การเปลี่ยนแปลงจุดนี้ คือต้นตอของปัญหาเกือบทุกด้านในสังคมไทย ทั้งทางการเมือง , ศาสนา และการดำเนินชีวิตทางเศรษฐกิจ ทุกวันนี้ เมื่อพูดกันถึงปัญหาของชาติบ้านเมือง ผู้คนมักนึกถึงเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการเมืองก่อน แต่เมื่อวิเคราะห์กันลึก ๆ แล้วจะพบว่า ปัญหาเศรษฐกิจการเมืองมีรากเหง้าต้นตอเริ่มจากเรื่อง “วัฒนธรรม” การเมืองไทยเป็นอย่างนี้ ก็เพราะคนไทยมีวัฒนธรรมเป็นอย่างนี้ การต่อสู้ทางการเมือง การพัฒนาการเมือง เวียนว่ายในวังวนเลวร้าย สถาบันทางสังคมที่สำคัญ เช่น ศาสนา ก็สั่นคลอน รากของปัญหาก็มาจาก “แนวคิด” ที่ถูกกำหนดจากวัฒนธรรมในสังคมนั่นเอง นรชนคนดีเรียกร้องการปฏิรูปสังคม การปฏิรูปการเมือง และปฏิรูป ๆ ๆ ๆ ทุกด้าน...... อย่าลืมว่า งานพื้นฐานสำคัญที่สุดคืองานด้านวัฒนธรรม !