ทีมข่าวคิดลึก
เหลืออีกไม่กี่วัน "วันชี้ชะตา" ในคดีประวัติศาสตร์ 25 ส.ค. จะมาถึง "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะจำเลย ในคดีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว น่าจะลุ้นระทึกมากกว่าใครเพื่อน !
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา จะพบว่ามีความเคลื่อนไหวของฝ่ายความมั่นคงทั้งในส่วนของตำรวจและกองทัพได้ใช้เวลาไปกับการประชุมเพื่อเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 25 ส.ค.นี้
ทั้งการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณหน้าศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตลอดจนพื้นที่โดยรอบ ไปพร้อมๆ กับการ"กุมสภาพ"ในระดับพื้นที่ตามจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสานเพื่อบล็อก "แกนนำ" ในทุกระดับ ไม่ให้ขยับได้โดยสะดวก
เมื่อฝ่ายตำรวจและทหารที่ต่างออกมาระบุว่า คาดว่าจะมีมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจ อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ จำนวนมากกว่าเมื่อวันแถลงปิดคดีจำนำข้าว เมื่อวันที่ 1 ส.ค. อย่างแน่นอน
เพราะหากวันนั้น ศาลมีคำพิพากษาว่า ยิ่งลักษณ์ มีความผิดตามมาตรา157 กรณีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ตามคำฟ้อง สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาย่อมไม่ได้กระทบเฉพาะต่อตัวยิ่งลักษณ์ เท่านั้น แต่แน่นอนว่าจะลุกลามไปยัง พรรคเพื่อไทย และนโยบายใหม่ที่พรรคเพื่อไทย เตรียมที่จะผลักดัน ออกมาต่อสู้กับคู่แข่งในการเลือกตั้งรอบหน้า
และจนถึงวันนี้ กลับน่าสนใจว่า ในท่ามกลางสถานการณ์ที่เข้มข้น มีเสียงเตือนจากรัฐบาล คสช. ตลอดจนหน่วยงานด้านความมั่นคง ขอร้องให้พี่น้องประชาชนรับฟังการตัดสินคดีอยู่ที่บ้าน
ไม่จำเป็นต้องแห่แหนเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ จนเกิดเป็นความวุ่นวายขึ้นขณะเดียวกันมีการตอบโต้ จากฝั่งสมาชิกพรรคเพื่อไทยไปยัง คสช. ในท่วงทำนองสวนกลับว่าอย่าเป็นฝ่ายปลุกเร้าความรุนแรงเสียเอง ไม่ว่าจะเป็นการปูดข่าวมีแกนนำทั้งคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทยเตรียมพาคนเข้ากรุงเทพฯ แต่ในความเป็นจริง แล้วกลับถูกทหารลงไปล็อกกันถึงตัว
ทว่า ในความอึกทึก ที่เกิดขึ้นตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับไม่มีข่าวคราวความเคลื่อนไหวจาก "ทักษิณ ชินวัตร"อดีตนายกฯ ปรากฏให้เป็นข่าวแต่อย่างใด !
ทั้งที่ผลจากคำพิพากษาของศาลในคดีจำนำข้าวล้วนแล้วแต่กระทบต่อคนในบ้านชินวัตรมากที่สุด เพราะไม่เพียงแต่ยิ่งลักษณ์ เท่านั้น หากแต่ยังจะทำให้เกิดคำถามตามมาว่า หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คนต่อไป คงไม่สามารถส่งคนในบ้านชินวัตร ลงมาได้อีก
นอกจากนี้ คำพิพากษาของศาลหากออกมาในทางที่เป็นลบ ยังทำให้สถานการณ์ภายในพรรค เกิดความวุ่นวายตามมามากขึ้น ทั้งจะเป็น "คำตอบ"ให้แก่บรรดาสมาชิกพรรค ว่าจากนี้จะเลือกตัดสินใจสำหรับอนาคตทางการเมืองของตัวเองอย่างไร จะสู้ต่อในนามพรรคเพื่อไทย หรือเลือก "สละเรือ" แล้วไปหาบ้านหลังใหม่เพื่อลงสนามเลือกตั้งรอบหน้า
ทั้งหลายทั้งปวง ล้วนแล้วแต่เป็นเกมที่บีบคั้นและกดดัน ทั้งต่อคนในบ้านชินวัตรและพรรคเพื่อไทยอย่างหนักหนาสาหัส จะด้วยเหตุนี้หรือไม่ ที่ทำให้ ทักษิณเลือกที่จะใช้วิธีการ "นิ่ง" ในยามคับขันแทนการออกมาตอบโต้ ทั้งที่ดูขัดกับอุปนิสัยของอดีตนายกฯ ทักษิณอย่างชัดเจน
เป็นเพราะเขาเองอาจประเมินได้ว่าทุกปฏิกิริยาของตัวเองย่อมจะส่งผลให้เกิดขึ้นในหลายทาง ทั้งต่อคนในพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง ว่าจะสู้ต่อไปเพื่ออะไรและเพื่อใคร รวมทั้งจะกลายเป็นการ แง้มไพ่เพื่อให้ฝั่งตรงข้ามได้รับรู้ว่า ทักษิณคิดอะไร และจะทำอะไร สู้ใช้ "ความเงียบ"ให้กลายเป็น "ปริศนา" ทำให้เกิดการ "ตีความ" เกิดข่าวลือ ข่าวลวงขึ้นมาแทน !