ก้าวสำคัญของกองทัพ

แม้เหตุรัฐประหารในเมียนมาจะทำให้หลายฝ่ายจับตามาที่กองทัพไทย กระนั้นในวาระครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์กราดยิงโคราช กองทัพบกโดย พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก ได้เปิดแถลงข่าวครั้งสำคัญ โดยมีเนื้อหาระบุว่า หลังจากที่กองทัพบกมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และฟื้นฟูเยียวยา รวมถึงพิจารณาลงโทษผู้เกี่ยวข้อง ข้อสรุปจากกรมฝ่ายเสนาธิการ ได้เยียวยาใน 2 ลักษณะ กับผู้เสียชีวิตทั้ง 31 ราย และบาดเจ็บ 57 คน รวม 88 ราย และบรรจุราชการ 31 คน สังกัด ทบ. 26 คน สตช. 4 คน และพนักงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟ 1 คน มี 4 คนไม่ได้รับการเยียวยาคือ ผู้ก่อเหตุและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา ผู้ก่อเหตุ,พันเอกอนันต์ฐโรจน์ กระแสร์,นางอนงค์ มิตรจันทร์ และ นายพิทยา แก้วพรหม พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนปลดประจำการถอดยศแม้เสียชีวิตไปแล้ว ก็จะไม่ได้รับสิทธิตามระเบียบบำเหน็จตกทอด ทั้งจ่าสิบเอกจักรพันธ์ และพันเอกอนันต์ฐโรจน์ ขณะที่ผู้บังคับบัญชาประจำหน่วยกองทัพภาค โดนคาดโทษ และผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการช่วยรบที่ 2 (ผบ.บชร.2)ในขณะนั้นถูกปรับเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ยศไม่ขึ้น นอกจากนี้กองทัพบกยังปรับปรุงระเบียบการรักษาความปลอดภัยคลังอาวุธ และปรับปรุงระบบสวัสดิการกองทัพให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และระเบียบกองทัพในการการจัดสวัสดิการภายในกองทัพบก โฆษกกองทัพบก ยังชี้แจงถึงแผนจัดการสวัสดิการทั้งหมดของกองทัพ ประกอบด้วย 1.พื้นที่ที่เป็นสนามกอล์ฟทั้ง 36 แห่ง จัดทำเป็นพื้นที่สวัสดิการเชิงธุรกิจ 1 แห่ง คือ สวนสนประดิพัทธ์ อีก 2 แห่งที่ รามอินทรา กทม. และ ลานนา จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ระหว่างขั้นตอนการเตรียมเอกสาร คงเหลือ 33 แห่งเป็นสวัสดิการภายใน 2.สนามมวย 3 แห่ง ปิดถาวรไปแล้ว 2 แห่ง คือ ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี และ ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ส่วนสนามมวยลุมพินี ผู้บัญชาการทหารบกแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาให้ถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งอาจจะเป็นธุรกิจหรือสนามกีฬาที่อาจไม่มีการจัดการแข่งขันแล้ว 3.สนามม้า จังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันไม่ได้เปิด เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และขณะนี้ ผู้บัญชาการทหารบก สั่งตั้งคณะกรรมการศึกษาสำหรับการใช้พื้นที่ว่า จะให้รื้อเปลี่ยนจากสนามม้ามาใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่นหรือไม่ ซึ่งอาจจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือสวนสาธารณะเพื่อออกกำลังกายได้ 4.สถานที่พักฟื้นพักผ่อน 5 แห่ง เข้าสู่สวัสดิการเชิงธุรกิจ 2 แห่ง คือ ไชยนารายณ์ ริเวอร์ไซด์ จังหวัดเชียงราย และสวนสนประดิพัทธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนลานนา มทบ.33 จังหวัดเชียงใหม่ กำลังดำเนินการ ขณะที่อีก 2 แห่งคือ บางปู จังหวัดสมุทรปราการ และหาดเจ้าสำราญ จังหวัดเพชรบุรี ยังคงเป็นสวัสดิการภายใน อีกหนึ่งในแนวทางการปฏิรูปกองทัพ คือยกเลิกหรือลดจำนวนโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ราคาสูงจากต่างประเทศให้มากที่สุด และสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศมาใช้มากขึ้น ลดการใช้งบประมาณสำหรับกองทัพบกเพื่อนำไปใช้บรรเทาความเดือนร้อนประชาชนด้านอื่นๆ รวมไปถึงการปรับปรุงโครงสร้างกำลัง กองทัพบกไปสู่การจัดหน่วยแบบ เบา ประหยัด มีความคล่องตัวสูง และมีประสิทธิภาพ บริหารจัดการตนเองภายใต้ข้อจำกัดของงบประมาณ แต่ในปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยีด้านอาวุธก้าวหน้าไปมาก สิ่งใดที่เราดำเนินการเองไม่ได้ ก็ต้องจัดหา นับเป็นการขยับปรับตัวที่น่าสนใจ ในส่วนของกองทัพไทย ที่มองเห็นปรากฎการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และที่สำคัญ คือก้าวสำคัญในการเปิดรับสมัครชายไทยอายุ 18-20 ปี และ อายุ 22-29 ปีเข้าเป็นทหารกองประจำการกรณีพิเศษทางออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.rcm64.rta.mi.th หรือ หน่วยทหารกองทัพบก ซึ่งทหารกองประจำการกรณีพิเศษนี้ จะได้รับสิทธิเช่นเดียวกับทหารกองประจำการปกติ รวมถึงสิทธิที่จะได้รับเพิ่มเติม นอกจากนี้หากอยู่ครบ 2 ปีจะได้รับโควต้าสอบเข้านักเรียนนายสิบกองทัพบกอีกด้วย