ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ มีเทศกาลสำคัญทั้งเทศกาลตรุษจีน หรือปีใหม่จีนในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ และวันวาเลนไทน์ ที่หลายฝ่ายโดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจต่างคาดหวังอานิสสงส์จากการท่องเที่ยว แต๊ะเอีย อั่งเปา ของขวัญวันวาเลนไทน์ ว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคัก
ประกอบกับการผ่อนปรนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19ให้บรรดาร้านอาหาร ผับ บาร์ คาราโอเกะ เปิดบริการให้นั่งรับประทานในร้านได้ถึงเวลา 23.00น. แต่งดดื่มสุรา ยกเว้นพื้นที่สีแดงเข้มจังหวัดเดียวคือ สมุทรสาคร
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจไทย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัวหรือติดลบที่ 6.5 เปอร์เซ็นต์ ดีขึ้นกว่าเดิมที่คาดว่าจะติดลบ 7.7 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ข้อมูลจาก ดร.ดอน นาครทรรพ ฝ่ายเสถียรภาพระบบการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เขียนบทความเรื่อง “ลุ้นระทึก เศรษฐกิจไทย” ในเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยแพร่เมื่อวันที 25 มกราคม 2564 ตอนหนึ่งระบุว่า “มีโอกาสสูงที่ เศรษฐกิจไทยปี 2565 จะขยายตัวแบบพุ่งทะยาน (แต่มองไกลกว่านั้น การจะให้เศรษฐกิจขยายตัวดีอย่าง ยั่งยืน เราไม่สามารถพึ่งพาแค่การดีดกลับของภาคท่องเที่ยวได้ ต้องอาศัยการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง ตามที่ผมเคยให้ความเห็นในบทความ “วิกฤตโควิด: ศึกนี้ยังอีกยาวไกล”)
อย่างไรก็ดี ภาพของเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ที่ดูสวยหรูนี้นอกจากจะขึ้นกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องเข้ามาอย่างน้อย 20 ล้านคนแล้ว ยังขึ้นกับเงื่อนไขสำคัญอีกสองข้อ ข้อแรก เศรษฐกิจโลกยัง ไปได้ดี และข้อที่สอง เครื่องยนต์เศรษฐกิจในประเทศต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมจะไปต่อ ไม่เสียหายเกินไปในช่วงหนึ่งปีนี้”
ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ได้เปิดเผยรายงานผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนและผู้ประกอบการเกี่ยวกับนโยบายการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะอาจจะมีขึ้นในอนาคต พบว่า ประชาชน 60% และผู้ประกอบการ 50% มีความคิดเห็นว่า ควรเปิดประเทศ
กระนั้น เมื่อหันมาดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ของไทย ที่ยังอยู่ในสถานการณ์ที่น่าวิตก การตัดสินใจเปิดประเทศจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและรัดกุม กระนั้น ก็ไม่สามารถจะปิดประเทศไปได้ตลอด
ด้านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ มองว่า วัคซีนพาสปอร์ต เป็นทางออกในการแก้ปัญหาธุรกิจการท่องเที่ยวของบ้านเรา
ขณะที่นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ได้รับมอบนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการการท่องเที่ยวและกีฬา ให้พิจารณานำนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาได้อย่างไรก่อน โดยอาจทำเป็นวัคซีนพาสปอร์ต ที่ทำร่วมกันในอาเซียนที่มีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางได้ ทั้งนี้ในปี 2564 ททท. ตั้งเป้าหมายว่า รายได้จากการท่องเที่ยวของไทยอยู่ที่ 1.2 ล้านล้านบาท แยกเป็น นักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน สร้างรายได้ 5 แสนล้านบาท ไทยเที่ยวไทย 20 ล้านคนครั้ง สร้างรายได้ 7 แสนล้านบาท
ดังนั้น เราจึงเห็นว่าควรเร่งทำนโยบายเรื่องวัคซีนพาสปอร์ตให้มีความชัดเจนโดยเร็ว เพื่อเป็นความหวังให้กับธุรกิจท่องเที่ยวและความมั่นใจของพี่น้องประชาชนในประเทศ ที่สำคัญคือการอุดช่องโหว่ ต่างๆ ในกลไกการตรวจสอบคัดกรองบุคคลเข้าประเทศ ไม่ให้เกิดกรณี วีไอพี ทำป่วน จนทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวอีกรอบ